ลอนดอนเผยชื่อคนร้ายขับรถชนคนหน้ามัสยิด/เหตุที่ฌ็องเซลิเซเป็นพยายามคาร์บอมบ์/นศ.อเมริกันที่เกาหลีเหนือปล่อยตัวตายแล้ว

ความคืบหน้าเหตุคนร้ายขับรถแวนพุ่งชนผู้คนที่เพิ่งออกมาจากมัสยิดฟินส์เบอรีพาร์ค บนถนนเซเวนซิสเตอร์ส ในกรุงลอนดอน แคว้นอังกฤษ สหราชอาณาจักร ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 10 ราย ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุถูกผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ช่วยกันจับตัวเอาไว้ได้ ตำรวจเปิดเผยชื่อแล้ว คือนายดาเรน ออสบอร์น อายุ 47 ปี ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตั้งข้อกล่าวหาพยายามฆ่า และต่อมาเพิ่มข้อกล่าวหาก่อการร้าย

ก่อนหน้านี้ นายซาดิก ข่าน นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน เปิดเผยว่า มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในชุมชนต่างๆ และว่า เหตุโจมตีที่เกิดขึ้นเป็นการทำลายคุณค่าของการอดกลั้น เสรีภาพและความเคารพ

เหตุโจมตีที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ต่อเนื่องจากเหตุเมื่อวันที่ 22 มีนาคมปีนี้ ซึ่งเป็นการที่คนร้ายขับรถไล่ชนคนเดินถนนบนสะพานเวสต์ มินสเตอร์ ในกรุงลอนดอน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย ต่อมาเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายขึ้นในงานคอนเสิร์ตที่เมืองแมนเชสเตอร์ มีผู้เสียชีวิต 22 ราย และเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน เป็นเหตุกลุ่มคนร้ายใช้รถตู้พุ่งชนคนและใช้มีดไล่แทงผู้คนที่ลอนดอนบริดจ์ มีผู้เสียชีวิต 8 ราย ซึ่งทั้งหมดนี้ กลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ไอเอส อ้างว่าอยู่เบื้องหลัง

ขณะที่ความคืบหน้าเหตุคนขับรถยนต์พุ่งชนรถตำรวจคันหนึ่งบนถนนฌ็องเซลิเซ ในกรุงปารีส โดยผู้เสียชีวิต 1 รายคือคนร้ายรายนี้ ต่อมากระทรวงกิจการภายในฝรั่งเศส ระบุว่าเป็นความพยายามก่อเหตุรุนแรง โดยในการตรวจค้นรถที่ใช้ในการก่อเหตุเจ้าหน้าที่พบปืนอาก้า 1 กระบอก ปืนสั้นหลายกระบอกและถังแก๊ส ซึ่งอาจหมายถึงความพยายามใช้รถยนต์คันนี้ก่อเหตุในลักษณะคาร์บอมบ์

อย่างไรก็ตามในระหว่างที่เกิดเหตุ ไม่มีเจ้าหน้าที่หรือประชาชนในละแวกใกล้เคียง ทำให้ไม่มีผู้อื่นได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

ที่ฝรั่งเศสยังมีเหตุไฟไหม้หลังคาเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่โรงไฟฟ้าบูเกย์ ซึ่งสำนักงานความปลอดภัยทางนิวเคลียร์ของฝรั่งเศส หรือ เอเอสเอ็น เปิดเผยว่าเหตุเกิดขึ้นที่เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์หมายเลข 5 ของโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์บูเกย์ ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองลียงราว 35 กิโลเมตร และบริหารงานโดย อีดีเอฟ รัฐวิสาหกิจพลังงานของประเทศ ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุไฟไหม้ และ ไม่พบกัมมันตภาพรังสีรั่วไหล

ส่วนการเมืองฝรั่งเศส ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝรั่งเศสรอบที่ 2 พรรคลา เรปลูบิก ออง มาร์ช ของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง และกลุ่มผู้สนับสนุนครองเสียงข้างมากด้วยจำนวน 351 ที่นั่งจาก 577 ที่นั่ง คิดเป็นร้อยละ 42 ขณะที่มีผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งรอบสองเพียงร้อยละ 44 ลดลงจากรอบแรกที่ร้อยละ 49 ซึ่งถือว่า ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์  ส่วนพรรคเลส์ เรปูลิแกงส์ ฝ่ายอนุรักษ์นิยม ได้ 131 ที่นั่ง พรรคเนชั่นแนลฟรอนต์ ฝ่ายขวาจัดของนางมารีน เลอเปน มีเพียง 8 ที่นั่ง โดย 1 ใน 8 คือนางเลอเปนที่เป็น ส.ส.สมัยแรก ส่วนพรรคสังคมนิยมฝ่ายซ้าย ของอดีตประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ ได้เพียง 29 ที่นั่ง

ส่วนสงครามกลางเมืองซีเรียที่เข้าสู่ปีที่ 6 เพิ่มความตึงเครียดมากขึ้นเมื่อเครื่องบินขับไล่ F/A-18E ซูเปอร์ฮอร์เน็ต กองทัพสหรัฐฯ ยิงเครื่องบินขับไล่ SU-22 ของซีเรีย ที่จังหวัดรักกา ซึ่งฝ่ายกองทัพสหรัฐ ระบุว่า กองทัพซีเรียโจมตีกลุ่มกองกำลังเอสดีเอฟที่เป็นฝ่ายสหรัฐฯ แต่ซีเรียยืนยันว่า พวกเขาโจมตีกลุ่มไอเอส  ทั้งเตือนให้สหรัฐฯระวังผลร้ายแรงที่จะติดตามมาจากพฤติกรรมก้าวร้าวในครั้งนี้

ขณะที่กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน แถลงว่า ยิงขีปนาวุธพิสัยกลางหลายลูกโจมตีฐานของกลุ่มไอเอสในจังหวัดเดอีร์เอซซอร์ทางตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรียเพื่อแก้แค้นที่นักรบไอเอสโจมตีอาคารรัฐสภาและสุสาน อยาตอลเลาะห์ รูฮอลเลาะห์ คอเมเนอี ผู้นำการปฏิวัติอิสลามอิหร่าน จนมีผู้เสียชีวิตไปถึง 17 คน เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ซึ่งยังเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปีที่ขีปนาวุธอิหร่านโจมตีเป้าหมายนอกประเทศ

ทางการสหรัฐเปิดเผยว่า นายออตโต วอร์มเบียร์ อายุ 22 ปีนักศึกษาชาวอเมริกันเสียชีวิตแล้ว หลังจากที่ถูกคุมขังในเกาหลีเหนือมานานกว่า 17 เดือนในข้อหาต่อต้านรัฐ และส่งกลับมาสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา ด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม เนื่องจากมีอาการโคม่าเพราะอาหารเป็นพิษและรับประทานยานอนหลับ แต่คณะแพทย์อเมริกันที่ดูแลอาการของนายวอร์มเบียร์ ยืนยันไม่พบอาการของโรคโบทูลิซึมที่มีสาเหตุมาจากอาหารเป็นพิษหรือแผลสกปรกติดเชื้อ  แต่สมองได้รับความกระทบกระเทือนอย่างหนัก ระบบหายใจหยุดชะงักจากอาการบาดเจ็บ ทำให้ออกซิเจนไม่ไปเลี้ยงสมอง แต่ไม่พบร่องรอยกระดูกหักหรือร้าวจากการถูกทรมานแต่อย่างใด ซึ่งผลจากการที่สมองกระทบกระเทือนอย่างหนัก เป็นเหตุให้นายวอร์มเบียร์เสียชีวิต

ขณะเดียวกันกระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีเหนือออกแถลงการณ์ กล่าวหาเจ้าหน้าที่ตำรวจสนามบินสหรัฐฯ ใช้อำนาจอุกอาจยึดเอกสารทางการทูต ของกลุ่มนักการทูตเกาหลีเหนือกลางสนามบิน แต่กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ ตอบโต้ว่า กลุ่มบุคคลที่ถูกยึดเอกสารไม่มีสถานะทางการทูต จึงไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง

จากการที่หลายประเทศใช้มาตรการโดดเดี่ยวกาตาร์ โดยกล่าวหาว่าให้การสนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย นายอันวาร์ การ์การ์ช รัฐมนตรีการต่างประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ยอมรับว่า บรรดากลุ่มประเทศที่ใช้มาตรการนี้ต่างไม่มีความไว้ใจกาตาร์ เพราะมีหลักฐานที่ชัดเจนว่าสนับสนุนทางการเงินให้กับกลุ่มหัวรุนแรงจริง และต้องการเร่งให้กาตาร์ยุติการสนับสนุนทางการเงิน หรือการให้ที่อยู่แก่สมาชิกกลุ่มหัวรุนแรง

อย่างไรก็ตามวิกฤตกาตาร์และ 4 ชาติอาหรับมีหลายชาติพยายามเข้ามาเป็นคนกลางเพื่อไกล่เกลี่ยแต่อุปสรรคสำคัญคือความไม่ไว้วางใจกัน นอกจากนี้การที่สหรัฐฯ ที่มีฐานทัพใหญ่อยู่ในกาตาร์ ยังขายอาวุธให้กาตาร์ ทำให้กาตาร์ชี้ไปที่กลุ่มประเทศที่ตัดความสัมพันธ์กับกาตาร์ว่า เดินเกมผิดพลาดเพราะสหรัฐฯ ยังสนับสนุนกาตาร์ ซึ่งชีค โมฮัมเหม็ด บิน อับดุลเราะห์มาน อัล-ทานี รัฐมนตรีการต่างประเทศกาตาร์ ยังเห็นว่า มาตรการโดดเดี่ยวกาตาร์เป็นพฤติกรรมรุกราน และต้องการให้ยกเลิกมาตรการก่อนเริ่มต้นการเจรจา

เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียเผยว่า นักโทษต่างชาติ 4 คน ชาวออสเตรเลีย อินเดีย บัลแกเรีย และมาเลเซีย ร่วมกันหลบหนีออกจากเรือนจำเกโรโบกัน บนเกาะบาหลี ด้วยการขุดอุโมงค์เป็นระยะทางยาว 12 เมตร แต่เจ้าหน้าที่เชื่อว่านักโทษทั้ง 4 คนยังอยู่บนเกาะบาหลีและอยู่ไม่ไกลจากเรือนจำ

สำนักงานข้าหลวง ใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) เปิดเผยตัวเลขผู้พลัดถิ่นทั่วโลกเมื่อปี 2559 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 65 ล้าน 6 แสนคน โดยเพิ่มจากปี 2558 ราว 300,000คน โดยผู้พลัดถิ่นกลุ่มใหม่ทั้งหมดราว 10 ล้าน 3 แสนคน หรือราว 2 ใน 3 หลบหนีอยู่ภายในประเทศของตัวเอง ซึ่งซีเรียเป็นประเทศที่มีคนอพยพลี้ภัยทิ้งถิ่นฐานมากที่สุดราว 12 ล้านคน ตามด้วยโคลอมเบีย อัฟกานิสถาน อิรัก และซูดานใต้

ราคาน้ำมันลดลงแตะระดับต่ำสุดรอบ 7 เดือนในการซื้อขายล่าสุด โดยสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 54 เซนต์ ปิดที่ 44.20 ดอลลาร์ต่อบร์เรล ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 46 เซนต์ ปิดที่ 46.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 144.71 จุด หรือร้อยละ 0.68 ปิดที่ 21,528.99 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 20.31 จุด  หรือร้อยละ 0.83 ปิดที่ 2,453.46 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 87.26 จุด หรือร้อยละ 1.42 ปิดที่ 6,239.01 จุด

..