คาดการณ์เศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัว3.5/เตรียมขอหมายจับคดีระเบิดที่ปัตตานี11คน

นายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า สศช. ได้คงประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2560 ไว้ที่ร้อยละ 3.5 โดยมีช่วงคาดการณ์ที่แคบลงอยู่ที่ร้อยละ 3.3-3.8 จากเดิมร้อยละ 3-4 ตามการฟื้นตัวของการส่งออกในปีนี้ที่ปรับตัวดีขึ้นตามทิศทางของประเทศคู่ค้า และราคาสินค้าตลาดโลก โดยคาดว่าตัวเลขส่งออกของไทยปีนี้จะขยายตัวที่ร้อยละ 3.6 จากคาดการณ์เดิมร้อยละ 2.9 และการขยายตัวของการลงทุนภาครัฐที่อยู่ในเกณฑ์สูงและเร่งขึ้น

นางสาวดารณี แซ่จู ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์สถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยผลการดำเนินงานของระบบธนาคารพาณิชย์ไตรมาสแรก ของปี 2560 ว่า กำไรของธนาคารพาณิชย์ในไตรมาสแรก อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับปีก่อน คือมีกำไรสุทธิ 51,100 ล้านบาท ขณะที่สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอล เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 2.94 จากร้อยละ 2.83 ของสินเชื่อรวม โดยเพิ่มขึ้นจากสินเชื่อธุรกิจทั้งขนาดใหญ่ และวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ในบางอุตสาหกรรม และสินเชื่อเอสเอ็มอีในภาคพาณิชย์

ส่วนคมนาคม นายพิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่าที่ประชุมโครงการศึกษาความปลอดภัยรถตู้โดยสารประจำทาง มีแนวคิดจะเสนอเงินอุดหนุนแก่ผู้ประกอบการจำนวน 200,000 บาท เพื่อจูงใจให้เปลี่ยนจากรถตู้โดยสารเป็นรถโดยสารขนาดเล็กไม่เกิน 20 ที่นั่ง หรือ ไมโครบัส โดยมีเงื่อนไขว่าผู้ประกอบการจะต้องติดตั้งอุปกรณ์ส่วนควบตามมาตรฐานความปลอดภัย โดยมอบให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ไปพิจารณาความเป็นไปได้และกลับมาเสนอแนวทางที่ชัดเจนอีกครั้งในวันที่ 31 พฤษภาคมนี้

วันนี้ พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบก.ภ.จ.ปัตตานี จะขอศาลจังหวัดปัตตานี เพื่ออนุมัติหมายจับคนร้าย 11 คน ที่ร่วมกันปล้นฆ่าเจ้าของรถกระบะและนำรถไปก่อเหตุระเบิดที่บิ๊กซี ปัตตานี เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม โดยเมื่อวานนี้ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะหัวหน้าผู้แทนพิเศษของรัฐบาล พร้อมคณะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดปัตตานีเพื่อรับทราบสถานการณ์และติดตามความคืบหน้าคดีเหตุระเบิด โดยเดินทางไปยังที่เกิดเหตุเพื่อให้กำลังใจแก่พนักงาน จากนั้นเดินทางไปยังโรงพยาบาลเพื่อให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนความช่วยเหลือผู้ประกอบการอยู่ในระหว่างรอรายงานการประเมินทรัพย์สินอย่างเป็นทางการ ขณะที่ห้างบิ๊กซีที่เกิดเหตุจะเปิดให้บริการในวันนี้

พล.อ.อุดมเดช เปิดเผยด้วยว่า เจ้าหน้าที่สามารถระบุตัวผู้ก่อเหตุได้ทั้งหมด15 คนแล้ว และออกหมายจับไปแล้ว 1 คน คาดว่า น่าจะออกหมายจับเพิ่มอีก 11 คน พร้อมเชิญตัวผู้ต้องสงสัย 2 คนมาซักถามและทั้งสองคนให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการคลี่คลายคดีอย่างมาก ทางรัฐบาลจะเร่งรัดการดำเนินคดีให้เร็วที่สุด ขอให้มั่นใจว่าสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ได้แน่นอน

ส่วนเหตุระเบิดที่ด้านหน้าโรงละครแห่งชาติ ทำให้มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อย 2 คนผลการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ไม่พบดินปืนและเขม่า พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. สันนิษฐานว่าเกิดจากท่อพีวีซีป้ายรถเมล์หักโค่นลงมา

ในวันนี้ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นัดฟังคำพิพากษาอุทธรณ์ คดีกลุ่มพันธมิตรประชาชน บุกทำเนียบรัฐบาลตามที่อัยการ ฟ้อง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง, นายสนธิ ลิ้มทองกุล, นายพิภพ ธงไชย, นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์, นายสมศักดิ์ โกศัยสุข และนายสุริยะใส กตะศิลา แกนนำ พธม. เป็นจำเลยร่วมกันบุกรุก ทำให้เสียทรัพย์ โดยจำเลยกับพวกบุกเข้าทำเนียบปราศรัยกดดันรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ให้ลาออก คดีนี้ศาลชั้นต้น พิพากษาจำคุกคนละ 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา จำเลยได้ประกัน ยกเว้นนายสนธิ คุมขังจากเรือนจำ

เมื่อวานนี้ ศาลอาญา นัดตรวจพยานหลักฐานในคดีที่อัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้อง นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น, นายมณฑล กันล้อม อดีตประธานสหกรณ์, นายลภัส โสมคำ อดีตกรรมการ, นางทองพิณ กันล้อม อดีตกรรมการ, นายณัฐวัฒน์ ปิยพัชร์เมธี อดีตผู้จัดการสหกรณ์, นายอารีย์ แย้มบุญยิ่ง ผู้จัดการสหกรณ์, น.ส.ศรัณยา มานหมัด อดีตรองผู้จัดการสหกรณ์, น.ส.วาริศา เอกชัยจินดาวัฒน์ อดีตกรรมการสหกรณ์, นางจันทร์ฉาย ขันธะหัตถ์ รองผู้จัดการสหกรณ์, นายธนากร น่าบัณฑิต อดีตเจ้าหน้าที่สหกรณ์ และนายกฤษฎา มีบุญมาก อดีตเจ้าหน้าที่สหกรณ์ เป็นจำเลยที่ 1-11 ฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน กรณีระหว่างเดือนมกราคม 2551-ธันวาคม 2555 ร่วมกันทำสัญญากู้ยืมเงินระหว่างสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นกับสมาชิกสมทบ เป็นนิติบุคคลหรือคณะบุคคลที่ไม่ได้ถือหุ้นในสหกรณ์ จำนวน 28 ราย รวมเงินสัญญากู้ยืม 11,858,440,000 บาท โดยมิได้มีการกู้ยืมเงินกันจริง และร่วมกันทำบันทึกรายการทางการเงินอันเป็นเท็จ โดยโจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมาย และขอให้จำเลยทั้งหมดร่วมกันคืนเงินให้ผู้เสียหายรวม 2,254 รายด้วย และศาลได้ตรวจพยานหลักฐานในคดีที่อัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้อง จำเลยที่ 1-4 ข้อหาสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน กรณีที่เกี่ยวเนื่องกับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นด้วย และอัยการโจทก์ได้ขอรวมทั้ง 2 คดีเป็นสำนวนคดีเดียวกัน ซึ่งคู่ความไม่คัดค้าน ศาลพิจารณาแล้วอนุญาต เนื่องจากเห็นว่ามีข้อเท็จจริงเดียวกัน หากรวมสำนวนคดีแล้วจะทำให้การพิจารณาคดีรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยนัดพร้อมให้ตรวจเอกสารในวันที่ 6 พฤศจิกายนนี้ เวลา 09.00 น. ไม่ต้องเบิกตัวจำเลยมาศาล

ส่วนกรณีผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนถูกพาดพิงซื้อประเวณีเด็กหญิง และทำให้ถูกโยกย้ายเข้าประจำกระทรวงมหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก นายประยูร รัตนเสนีย์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทยในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงฯ ว่าการดำเนินการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งจะมีการสรุปผลการสอบสวนภายในสัปดาห์นี้

โดยเมื่อวานนี้ ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (ฝั่ง ก.พ.) นายคณนาถ คะชะนา รองประธานฝ่ายตรวจสอบและอำนวยความเป็นธรรม สมาพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย (ส.ปอ.ท.) ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อขอให้ตรวจสอบเหตุที่มีการเผารถยนต์ นายไฑ ปุณณนุพุฒิพงศ์ แกนนำสนับสนุน นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย ผู้เปิดโปงคดีค้าประเวณีที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยขอให้เร่งรัดคดี รวมทั้งให้ความคุ้มครองผู้ที่เกี่ยวข้อง

นายจรินทร์ จักกะพาก อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) ได้ทำหนังสือถึง ผวจ.ขอนแก่น สั่งปลด นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ ออกจากนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองบ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ตามที่ผลการสอบสวนพบมูลความผิดจริง กรณีละเมิดผู้สื่อข่าวเหตุเกิดภายในสำนักงานเทศบาลเมืองบ้านไผ่ เนื่องจากไม่พอใจที่นำเสนอภาพการสู่ขอเด็กสาวนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

..