นักวิชาการ มองมาตรการลดอุบัติเหตุยังแก้ไม่ตรงจุด ตรงเน้นคุมรถจักรยานยนต์

สถานการณ์อุบัติเหตุทางถนนในประเทศไทย ในการอบรม Stop the CRASH THAILAND ที่ สนามปทุมธานีสปีดเวย์ นวัตกรรมยานยนต์เพื่อถนนปลอดภัย นายแพทย์วิทยา ชาติบัญชาชัย ผู้อำนวยการศูนย์ความร่วมมือขององค์การอนามัยโลก ด้านการป้องกันการบาดเจ็บ เปิดเผยว่า สถานการณ์อุบัติเหตุทางถนนในประเทศไทย พบว่า จากสถิติมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ 20,000 คนต่อปี โดยประเทศไทยติดอันดับการสูญเสียชีวิตทางถนน เป็นอันดับ 2 ของโลก มีอัตราเสียชีวิต ร้อยละ 36.2 โดยรถจักรยานยนต์ เป็นพาหนะอันดับ 1 ของการเสียชีวิต นอกจากนี้ การเสียชีวิตจากการขับขี่รถจักรยานยนต์ ของประเทศไทย ยังสูงเป็นอันดับ 1 ของโลก ถึงร้อยละ 72.8 มีสาเหตุจาก 3 ปัจจัย ประกอบด้วย เกิดขึ้นเอง ขับชนกับรถคันอื่น และชนกับรถที่จอดข้างถนน  ส่วนอันดับของรถจักรยานยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุทางท้องถนน  ในอันดับรองนั้น ส่วนใหญ่ยังคงเป็นประเทศในภูมิภาคอาเซียน สะท้อนให้เห็นว่าจำนวนรถจักรยานยนต์ ในภูมิภาคมีจำนวนมาก และทุกชั่วโมงจะมีผู้เสียชีวิต 3 คน จากอุบัติเหตุทางถนน

อย่างไรก็ตาม มองว่าในยุคนี้ถือว่าเป็นยุคทองที่รัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องอุบัติเหตุทางถนนมากที่สุด ทั้งการออกกฎหมายข้อสั่งการต่างๆ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีของประชาชนในเรื่องความปลอดภัยทางท้องถนน แต่มองว่า การออกกฎหมายในปีนี้ช่วงเทศกาลสงกรานต์เพื่อลดการสูญเสียชีวิตของประชาชนบนท้องถนน อาจจะไม่ค่อยได้ผลเท่าที่ควร เนื่องจากสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุทางท้องถนน เกิดจากรถจักรยานยนต์เป็นอันดับ 1 ซึ่งมาตรการที่ออกมาในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ยังเน้นที่รถยนต์และรถตู้เป็นส่วนใหญ่

 ทั้งนี้ จากสถิติ ยังพบว่าอุบัติเหตุบนท้องถนนที่เกิดในช่วงเทศกาลสงกรานต์มีเพียงร้อยละ 4.5 ของอุบัติเหตุตลอดทั้งปีเท่านั้น  นอกจากนี้ การลดความเร็วในการขับขี่ก็ถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้อุบัติเหตุเกิดน้อยลงโดย จะต้องมี 5 ยุทธศาสตร์บูรณาการไปพร้อมกัน  ประกอบด้วย มาตรการด้านถนนที่ปลอดภัย ที่ทำให้รถต้องขับช้าลง มาตรการด้านกฎหมายโดยกำหนดความเร็วสูงสุดโดยเฉพาะในเขตเมือง ให้ได้ตามมาตรฐานสากลคือน้อยกว่า 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มาตรการด้านการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวด มาตรการด้านรถที่ปลอดภัย และมาตรการด้านการรณรงค์สร้างความตระหนักการรับรู้ให้กับประชาชน

ผู้สื่อข่าว:เกตุกนก ครองคุ้ม