พบศพเจ้าของรถแล้ว! แม่ทัพภาคที่ 4 เผย รวบผู้ต้องสงสัยระเบิดบิ๊กซี ได้แล้ว 1 คน นำตัว นายกอบต.ในอ.หนองจิก-ลูกน้อง6คนสอบเพิ่ม

หลังคนร้ายก่อเหตุคาร์บอมบ์ห้างบิ๊กซีเซ็นเตอร์ สาขาปัตตานี  พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า ขณะนี้ มีผู้ต้องสงสัยแล้ว 8 คน ส่วนที่ออกหมายจับได้ตัวมาแล้วเมื่อคืน 1 คน คือ "อุสตาซ" จากการพูดคุยได้ยอมรับว่า เป็นคนเช็ดคราบเลือดเจ้าของรถ พร้อมเชิญผู้ต้องสงสัยที่เชิญตัวมาเป็นระดับ นายก อบต.ในพื้นที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี และลูกน้อง มาพูดคุย รวม 6 คน จากทั้งหมด 8 คน

พล.ท.ปิยวัฒน์ คาดว่า เจ้าของรถกระบะที่ใช้ก่อเหตุเสียชีวิตแล้ว แต่ต้องรอผลการตรวจเลือด หรือ ดีเอ็นเอจากคราบเลือดก่อนว่า ดีเอ็นเอที่บ้านผู้ก่อเหตุเป็นอย่างไร เมื่อทราบว่าเจ้าของรถเป็นใคร ก็ส่งเจ้าหน้าที่ไปดูแลครอบครัวเจ้าของรถด้วย ล่าสุด พบศพนายนุสน ขจรคำ คนขับรถที่ถูกนำมาประกอบระเบิดบิ๊กซี จ.ปัตตานี ที่หมู่ 1 บ้านเกาะเปาะเหนือ ตำบลเกาะเปาะ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี

ส่วนในอนาคตจะต้องตรวจสอบเรื่องของคุณสมบัติการเป็นนายก อบต.หรือไม่ พล.ท.ปิยวัฒน์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของจังหวัดที่จะต้องตรวจสอบคุณสมบัติและประวัติหลายอย่าง เพราะเหมือนกับการเล่นการเมืองทั่วไป ใครมีอิทธิพลก็จะได้เป็น คนที่ไม่มีอิทธิพลแต่เป็นคนดีก็ลำบาก เป็นแค่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ซึ่งเราต้องดูว่าผู้ที่จะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐต้องปฏิบัติตนอย่างไรบ้าง

ส่วนประชาชนจะลำบากเล็กน้อยในการสัญจรไปมา เพราะจะต้องตรวจรถทุกคัน แม้แต่รถไอศกรีม เพราะผู้ก่อเหตุปรับเปลี่ยนแผนใหม่ ซึ่งเราจะต้องทำให้ดีกว่าเขา คือ ก้าวเกินเขาไปด้วยการวิ่ง เพราะทุกครั้งเราใช้ความเป็นมนุษยธรรม ความเป็นพี่เป็นน้อง ไทยมุสลิม ไทยคริสต์ ไทยพุทธ ไทยจีน อยู่ด้วยกันและเราก็เปิดโอกาสทุกอย่าง จะเห็นได้ว่าทั้งปัตตานี ยะลา นราธิวาส พี่น้องออกมาจับจ่ายใช้สอยได้หมดทุกคน ซึ่งมาเกิดเหตุการณ์นี้ครั้งแรก

ด้านนายกัสตูรี มะโกตา แกนนำพูโล (PULO) ได้แสดงความเห็นในเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า เหตุการณ์คาร์บอมบ์ที่ห้างบิ๊กซีปัตตานีนั้น ในนามส่วนตัวไม่เห็นด้วยต่อการกระทำต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ และเรียกร้องให้เลิกการกระทำลักษณะรุกราน หรือรังแกคนต่างเชื้อชาติ และไม่ใช่มุสลิม ในนามส่วนตัว และครอบครัวสมาชิกกลุ่มพูโล (PULO) ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เรียกร้องให้รัฐบาลไทยคืนอำนาจให้ประชาชนชี้ชะตาอนาคตของตัวเอง

ส่วนอาบูฮาเฟส อัล-ฮากิม ในนามมาราปาตานี ได้แสดงความเห็นว่า เราไม่อาจจะยกโทษให้แก่การละเมิดความปลอดภัยในพื้นที่สาธารณะได้ เราขอประณามการกระทำใดๆ ก็ตามด้วยความขลาด อันมีผลโดยตรงต่อการบาดเจ็บ ล้มตายของพลเรือน โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อผู้หญิง และเด็ก ผู้ก่อเหตุจะต้องถูกนำตัวมาดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรม เราขอแสดงรู้สึกเห็นใจ และแสดงความเสียใจอย่างลึกซึ้งต่อผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ ประชาชนชาวปาตานีทุกชาติพันธุ์ และทุกศาสนา