ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น.
+++นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ กรณีนายธงทอง นายธงทอง จันทรางศุ อดีตปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุคส่วนตัว Tongthong Chandransu ระบุว่า “ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม กำหนดวันสำหรับพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่เก้า ระหว่างวันที่ 25 ถึงวันที่ 29 ตุลาคม พุทธศักราช 2560 วันถวายพระเพลิงพระบรมศพซึ่งเป็นวันสำคัญที่สุดของการพระราชพิธี กำหนดวันพฤหัสบดีที่ 26 ตุลาคม พุทธศักราช 2560” ว่า ยังไม่เห็นหนังสือฉบับอย่างเป็นทางการ จึงยังไม่ขอยืนยัน ยังไม่เห็นฉบับที่เป็นทางการ แต่ได้รับการบอกเล่า แต่ผมจะไม่พูด จะต้องเห็นตัวหมายกำหนดการก่อน” และในการประชุมคณะรัฐมนตรี ไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องนี้ คาดว่า หากมีข้อมูลที่ชัดเจน ก็น่าจะมีการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้ ส่วนจะกำหนดเป็นวันหยุดราชการในช่วงงานพระราชพิธีหรือไม่นั้น นายวิษณุ กล่าวว่า เมื่อมีหมายกำหนดการอย่างเป็นทางการ รัฐบาลจะมีการพิจารณาในเรื่องนี้อีกครั้ง
+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงประเด็นหมุดคณะราษฎร์ว่า ได้รับทราบเรื่องแล้ว ไม่ต้องการให้เป็นประเด็น โดยมอบให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติไปดูแล ติดตามเรื่องนี้ ขอร้องให้ประเทศเดินไปข้างหน้า อย่านำเรื่องนี้มาโต้แย้งไปมา เพราะไม่เกิดประโยชน์อะไร สำ. ส่วนเมื่อคืนนี้ เเมื่อเวลา 22:10 น. ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า เจ้าหน้าที่ได้มีการนำรั้วเหล็กมาล้อมรอบ หมุดอันใหม่ ซึ่งถูกเปลี่ยนโดยเอาหมุดของคณะราษฎรสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงการปกครองออก พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า มาที่นี่เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัย โดยตนมักแวะเวียนมาตรวจเยี่ยมและเฝ้าระวังให้กับประชาชนที่มาสักการะพระบรมรูปทรงม้า ซึ่งมักมีกลุ่มมิจฉาชีพเข้ามาหาผลประโยชน์ เมื่อถามถึงจำนวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาดูแลควบคุมสถานการณ์บริเวณหมุดใหม่ พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่าไม่ทราบการนำรั้วเหล็กมาตั้งเพิ่งเกิดขึ้นในวันนี้ เสร็จประมาณ 19.00 น. หลังมีคำสั่งคุมเข้มสถานการณ์ไม่ให้มีการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์รวมถึงห้ามประชาชนเข้าไปถ่ายรูปกับหมุดใหม่ หากฝ่าฝืนจะถูกลบทันที โดยในวันพรุ่งนี้ ได้มีการนัดหมายในกลุ่มนักเคลื่อนไหวว่าจะมีการมารวมตัวกัน ที่ สน.ดุสิต และเดินดูกล้อง CCTV โดยรอบ รวมถึงเดินทางไป กทม.เพื่อขอดูวงจรปิดอีกด้วย
+++ หลังพล.ต.วิจารณ์ จดแตง หัวหน้าฝ่ายกฎหมายหน่วยเฉพาะกิจการข่าว คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ เสนาธิการผู้บังคับบัญชาฝ่ายกฎหมาย คสช. พร้อมกำลังทหารจากมณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) ควบคุมตัว นางมณฑญาณ์ นิรันดร อายุ 55 ปี มารดาของซินแสโชกุน, นายก้องศรัณย์ แสงประภา อายุ 22 ปี, น.ส.ทัศย์ดาว สมัครกสิกรรณ์ อายุ 35 ปี แฟนสาวของซินแสโชกุน, นางประนอม พลานุสนธิ์ อายุ 40 ปี เลขานุการส่วนตัวของซินแสโชกุน, นางณิชมน แสงประภา อายุ 64 ปี, นางพารินธญ์ หงษ์หิรัญ ดัคกอร์ อายุ 35 ปี, น.ศ.สุดารัตน์ เอนกนวล อายุ 25 ปี และ นายโกวิท ช่วยสัตว์ อายุ 30 ปี รวม 8 ราย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 951-958/2560 ลงวันที่ 17 เมษายน 2560 ตามลำดับ ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และกระทำการอันเป็นอั้งยี่ ซ่องโจร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 210 และ 343 ประกอบมาตรา 83 ส่งมอบให้พนักงานสอบสวน บก.ป. สำหรับคดีดังกล่าวมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์แล้ว 360 คน รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 15 ล้านบาท ขณะที่เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ร่วมกับตำรวจ ทหาร สามารถติดตามยึดทรัพย์สินต่างๆ จากกลุ่มผู้ต้องหาในเบื้องต้น อาทิ รถยนต์ เงินในบัญชีธนาคาร ทองรูปพรรณ คอนโดมิเนียม ฯลฯ รวมมูลค่ากว่า 15 ล้านบาท ส่วนการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 8 ราย ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยพนักงานสอบสวนจะควบคุมตัวไว้ที่กองปราบฯ 2 วัน ก่อนนำตัวไปขออำนาจศาลอาญารัชดาภิเษกฝากขังผัดแรกวันพฤหัสบดีที่ 20 เมษายนนี้ พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีมีมูลความเสียหายสูง หากผู้ต้องหาได้รับการประกันตัว เกรงว่าจะหลบหนี
+++นางชฎาพร รักษาทรัพย์ ผอ.ทัณฑสถานหญิงกลาง เปิดเผยว่า หลังจาก น.ส.พสิษฐ์ได้เข้ามาอยู่ในการควบคุมตัวของทัณฑสถานหญิงกลาง ก็ได้รับรายงานว่า ขณะนี้มีอาการเครียดลดลง เริ่มปรับตัวกับการใช้ชีวิตอยู่ภายในเรือนจำได้ และทำทุกอย่างตามระเบียบของเรือนจำ ซึ่งขณะนี้ก็ยังถูกควบคุมตัวอยู่ภายในแดนแรกรับ โดยยังไม่มีการร้องขออะไรเป็นพิเศษ ซึ่งทางทัณฑสถานฯได้ดูแลเหมือนกับผู้ต้องขังทั่วไป ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ทุกอย่างทำตามระเบียบของเรือนจำ
+++เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ คุมตัวนายไซซะนะ แก้วพิมพา ชาว สปป.ลาว มาศาลอาญารัชดาฯ เพื่อสอบคำให้การ คดีที่พนักงานอัยการคดียาเสพติด 10 ยื่นฟ้องเป็นจำเลย ฐานสมคบกัน นำเข้า และร่วมกันมียาบ้า จำนวน 1.2 ล้านเม็ดไว้ในครอบครองและจำหน่าย จำเลยกับพวกรวม 6 คน ทำหน้าที่จัดหายาเสพติด และขนยาเสพติดเข้าประเทศไทยเพื่อส่งต่อเครือข่ายยาเสพติดทางภาคใต้และประเทศมาเลเซีย กระทั่งวันที่ 1 ตุลาคม 2559 ตำรวจได้จับเครือข่ายของจำเลย พร้อมยาบ้า 1,200,000 เม็ด ที่จังหวัดหนองคาย และขยายผลจับกุมจำเลยได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิเมื่อวันที่ 19 มกราคม ในชั้นสอบสวน จำเลยให้การรับสารภาพ จึงถูกควบคุมตัวไว้ที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง ซึ่งอัยการคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากยาเสพติดของกลางมีจำนวนมาก และคดีมีอัตราโทษสูง เกรงว่าจำเลยจะหลบหนี ต่อมาอัยการได้ส่งฟ้องต่อศาล เมื่อ 12 เมษายน ที่ศาลได้สอบคำให้การว่าจะรับสารภาพหรือปฏิเสธ ซึ่งนายไซซะนะ ให้การปฏิเสธ ขอต่อสู้คดีในชั้นศาล ศาลจึงนัดพร้อมอีกครั้ง วันที่ 19 มิถุนายน เวลา 09.00 น.นายวรการ พงศ์ธนากุล ทนายความ เปิดเผยว่า นายไซซะนะ ยังกังวล เนื่องจากก่อนหน้าได้เซ็นยอมรับสารภาพในชั้นพนักงานสอบสวน โดยที่ไม่รู้และไม่เข้าใจ ข้อกฎหมายของไทย ตนในฐานะทนายไม่มีโอกาสเข้าไปชี้แจงข้อกฎหมายไทยให้นายไซซะนะฟัง เนื่องจากพนักงานสอบสวนกองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด หรือ ปส.ไม่อนุญาต โดยมีการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สน. ทุ่งสองห้อง เมื่อวันที่ 20 มกราคม เมื่อศาลกำหนดวันนัดพร้อม จะทำหนังสือเพื่อร้องขอความเป็นธรรมต่อศาลอีกครั้ง
+++ความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่หญิงประจำโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) แห่งหนึ่งใน จ.บึงกาฬ ถูกคนร้ายอ้างเป็นคนไข้ทำทีเข้ารับบริการทางการแพทย์ แต่กลับทำร้ายร่างกายและพยายามข่มขืน ขณะอยู่เวรนอกเวลาเพียงคนเดียว เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 น.ของคืนวันที่ 15 เม.ย.60 ที่ นพ.วิศณุ วิทยาบำรุง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) บึงกาฬ กล่าวถึงอาการของเจ้าหน้าที่หญิงคนดังกล่าว ว่า ขณะนี้น้องยังนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลเซกา โดยมีสภาพจิตใจย่ำแย่ แม้จะดีขึ้นเล็กน้อย แต่ยังไม่สมบูรณ์ อาจต้องพักฟื้นอีกระยะหนึ่ง และอาจจะพิจารณาให้ย้ายไปทำงานพื้นที่อื่นเพื่อให้สบายใจที่สุด มาตรการเยียวยาขณะนี้ว่า อยู่ระหว่างให้นิติกรและทีมกฎหมายพิจารณาเกี่ยวกับระเบียบต่างๆ ที่จะนำมาใช้ได้ ทั้งนี้ เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถเยียวยาได้จาก 3 ส่วนหลัก .กฎกระทรวงยุติธรรมช่วยเหลือผู้ที่ถูกทำร้ายในคดีอาญา ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ในเรื่องการช่วยเหลือเยียวยาเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการที่ได้รับผลกระทบทางการแพทย์ และ ระเบียบกรมบัญชีกลางในเรื่องการที่บุคคลไปช่วยเหลือผู้อื่นแล้วได้รับผลกระทบ