คืบหน้าแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ/ผ่อนผันนั่งท้ายกระบะ/ประชุมกทค.

18 เมษายน 2560, 08:25น.


การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่าจากการประเมินโครงการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบผ่านโครงการสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (พิโกไฟแนนซ์) และโครงการสินเชื่อรายย่อยเพื่อผู้ประกอบอาชีพ (นาโนไฟแนนซ์) สามารถแก้ปัญหาได้ประมาณร้อยละ 50-60 จากข้อมูลลูกหนี้นอกระบบที่มีการลงทะเบียนผ่านโครงการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย รอบแรก จำนวน 1 ล้าน 3 แสนราย คิดเป็นมูลหนี้ราว 1 แสนล้านบาท ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบตามนโยบายของรัฐบาล



ข่าวอาชญากรรมที่ต้องตามต่อในวันนี้ เป็นเหตุรุนแรงเมื่อคืนในงานวันไหลบางแสน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แสนสุข เปิดเผยว่า เมื่อช่วงกลางดึก ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยธรรมรัศมีมณีรัตน์ว่า มีเหตุรุนแรงจากการใช้อาวุธปืนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายรายบริเวณหน้าห้างแหลมทองบางแสน โดยผู้ที่ถูกยิงบาดเจ็บจำนวน 4 รายเป็นชาย 2 ราย และหญิง 2 ราย สันนิษฐานว่านักเที่ยวที่มาเที่ยววันไหลเกิดเขม่นกัน



ส่วนคดีรุมทำร้ายชาย-หญิงในคลิปที่ศรีสะเกษ ตามที่มีการนำมาเผยแพร่ผ่านสื่อสังคม ตำรวจ สภ.กันทรลักษ์ จับกุมกลุ่มผู้ต้องหา 5 คนที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย 2 คนที่บริเวณด้านหลังตลาดเม่งอุย ตำบลน้ำอ้อม อำเภอกันทรลักษ์ โดยคนร้ายทั้งหมดให้การรับสารภาพ แต่ว่าในกลุ่ม 5 คนมีอยู่คนหนึ่งเป็นบุคคลต่างด้าวอายุ 50 ปี จึงแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนี และเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนนายอนุสรณ์ พรหมคุณ อายุ 20 ปี ถูกตั้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมเสพยาเสพติดให้ โทษประเภท 1 (ยาบ้า)



ขณะเดียวกันผู้เสียหายคนหนึ่ง คือนายคมกริช แสงกอง ซึ่งถูกทำร้ายอาการสาหัส ยังไม่รู้สึกตัว และไม่สามารถที่จะให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนได้ ยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่ โรงพยาบาลศรีสะเกษ โดยนายคมกริช มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด, มีอาวุธปืนฯ และทำร้ายร่างกายฯ ถูกจับกุมในคดียาเสพติดฯ และอาวุธปืนฯ เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2559 ตามหมายจับคดีจำหน่ายยาเสพติดฯ ของ สภ.กันทรลักษ์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาคดี และอยู่ในระหว่างปล่อยตัวชั่วคราว ส่วนผู้เสียหายอีกคน แพทย์ให้กลับไปพักรักษาตัวที่บ้านได้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา



ส่วนคดีที่เกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกาย วันนี้ นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย จะเดินทางไปที่สำนักงานอัยการจังหวัดธัญบุรี ตามนัดครั้งที่ 1 กรณีคดีที่นายวิฑูรย์ ชลายนนาวิน แจ้งความในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์



วันนี้ เจ้าหน้าที่ทหารจะนำตัวบุคคลใกล้ชิด นางสาวพสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือโชกุน ผู้ต้องหาฉ้อโกงประชาชน จำนวน 8 คน ซึ่งถูกควบคุมตัวอยู่ที่มณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และกระทำการอันเป็นอั้งยี่ ซ่องโจร มามอบพนักงานสอบสวน บก.ป. ดำเนินคดีในวันที่ 18 เมษายนนี้ เวลา 10.00 น.โดยในส่วนของโชกุน ซึ่งถูกคุมตัวอยู่ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ก็จะถูกแจ้งข้อหาอั้งยี่ ซ่องโจร เพิ่มเติมด้วย



ส่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะหารือกับกรมขนส่งฯ เพื่อหาข้อสรุปห้ามใช้รถกระบะบรรทุกผู้โดยสาร ซึ่งพล.ต.ท.วิทยา ประยงค์พันธ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นได้เสนอให้มีการออกหลักเกณฑ์มารองรับการใช้รถกระบะบรรทุกผู้โดยสารให้มีความปลอดภัยในระดับหนึ่ง โดยอาจให้มีเข็มขัดนิรภัยหรือกำหนดจำนวนนั่งท้ายกระบะ หรือติดตั้งราวจับยึด หรือเข็มขัดนิรภัยเท่าที่ทำได้ หรือควบคุมความเร็ว โดยในระหว่างที่ยังไม่มีการกำหนดหลักเกณฑ์ออกมา ตำรวจก็จะให้ผ่อนผันไปก่อน โดยกรณีของมาตรการให้ประชาชนรัดเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง เจตนาก็เพื่อให้เกิดความปลอดภัย เมื่อผ่านไประยะหนึ่งก็ต้องเป็นเรื่องจิตสำนึกของประชาชนที่จะปฏิบัติ



วันนี้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจัดประชุมหารือเพื่อกำหนดมาตรการ แนวทาง และวิธีป้องกันและป้องปรามผู้ประกอบธุรกิจประเภทต่างๆ สวมรอยบริษัทที่จดทะเบียนนิติบุคคล หลอกลวงประชาชน โดยเชิญหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กรมการท่องเที่ยว เข้าร่วมประชุมหารือ



การประชุมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) วันนี้ มีวาระสำคัญที่น่าจับตา คือ ข้อเสนอแนะแนวทางและจำนวนค่าปรับทางปกครองกรณีผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม 3 ราย ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการคงสิทธิเลขหมาย เรื่องการปรับปรุงการคิดค่าบริการสำหรับการใช้บริการเลขหมายโทรศัพท์แบบสั้นของศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย และเรื่องการดำเนินคดีกับ บมจ. กสท โทรคมนาคม กรณีใช้คลื่นความถี่โดยไม่ได้รับอนุญาต รวมทั้งมีวาระเรื่องเพื่อทราบที่น่าสนใจ ได้แก่ รายงานผลการดำเนินงานคณะอนุกรรมการเลขหมายโทรคมนาคม และรายงานการอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมที่ไม่มีโครงข่ายเป็นของตนเองเดือนธันวาคม 2559



โดยในรายงานผลดำเนินงานคณะอนุกรรมการเลขหมายโทรคมนาคม และรายงานการอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมที่ไม่มีโครงข่ายเป็นของตนเอง กสทช.ได้จัดสรรเลขหมายสำหรับบริการโทรศัพท์ประจำที่รวม 1,017,000 เลขหมาย เป็นที่น่าสังเกตว่า โดย บริษัท ทรู ยูนิเวอร์แซล คอนเวอร์เจ้น ได้รับการจัดสรรสูงสุด 981,000 เลขหมาย หรือคิดเป็นร้อยละ 96.46 ของทั้งหมด ทั้งที่สัญญาสัมปทานระหว่าง ทรูฯ กับ บมจ. ทีโอที กำลังจะสิ้นสุดในปี 2561 ส่วนการคืนเลขหมายสำหรับบริการโทรศัพท์ประจำที่ทั้งหมด เป็นการคืนเลขหมายของ บมจ. ทีโอที จำนวนทั้งสิ้น 526,000 เลขหมาย ส่วนการจัดสรรเลขหมายสำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ปี 2559 มีการจัดสรรเลขหมายรวม 18,080,000 เลขหมาย โดยร้อยละ 53.26 เป็นของบริษัทเรียล มูฟ รองลงมาคือ บริษัทแอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค, บริษัทเอ็มวีเอ็นโอ และบริษัทดีแทค ไตรเน็ต



วันนี้เป็นวันครบรอบสถาปนาสภากทม. ครบ 44 ปี มีการสัมมนาเรื่องก้าวไปด้วยกันกับสภากรุงเทพมหานคร เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนกรุงเทพมหานครอย่างมั่นคงและยั่งยืน มี ร.ต.ต.เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ ประธานสภากทม. เป็นประธานเปิดการสัมมนา จากนั้น พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. จะกล่าวในหัวข้อ ทิศทางและนโยบายเพื่อให้คน กทม. มีคุณภาพชีวิตที่ดี และนายจักกพันธุ์  ผิวงาม รองผู้ว่าฯ กทม. จะร่วมเสวนาในประเด็น แผนพัฒนากรุงเทพมหานครเพื่อสร้างความสุขให้แก่ประชาชน

....

ข่าวทั้งหมด

X