นายกฯเผยแก้รธน.ชั่วคราวหมวดพระมหากษัตริยฺ์ก่อนทูลเกล้าฯร่างธรน.ประชามติ 2-3 เดือนข้างหน้าเปิดพื้นที่นักการเมือง หลังเสร็จพิธีพระบรมศพ-พระบรมราชาภิเษก

การแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.เปิดเผยว่า คสช.และครม.มีมติให้แก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราวว่าเนื่องจาก สํานักราชเลขาธิการ ได้ทำเรื่องหารือกับรัฐบาลถึงพระราชกระแสรับสั่ง เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมวดพระมหากษัตริย์ 3-4 รายการดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตามพระราชอำนาจ วันนี้จึงต้องทำการแก้ไข รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี2557 เพื่อที่นำไปแก้เนื้อหาสาระสำคัญในรัฐธรรมนูญฉบับประชามติ ซึ่งในส่วนนี้โดยจะดำเนินการให้เร็วที่สุดและคาดว่ากระบวนการทั้งหมดจะแล้วเสร็จก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯจะใช้ระยะเวลา2-3เดือน

นายกรัฐมนตรี เปิดเผยด้วยว่า ภายหลังจาก เสร็จสิ้นพระราชพิธี งานพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และพระราชพิธี ราชาภิเษก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 จะเปิดพื้นที่ให้นักการเมืองสามารถ เคลื่อนไหวจัดกิจกรรมประชุมพรรคได้ เพื่อเตรียมการไปสู่การเลือกตั้ง นายกรัฐมนตรีย้ำด้วยว่า ไม่เคยเลื่อนขั้นตอนของโรดแมป ซึ่งทุกขั้นตอน ของรถแมปขณะนี้ยังคงเป็นเหมือนเดิมทุกประการ ส่วนเรื่องของการปฏิรูป ได้ตั้งคณะกรรมการเร่งดำเนินการปฏิรูปทางยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยขออย่ากังวลว่า รัฐบาลจะอยู่ต่อหรือสืบทอดอำนาจ เพราะไม่สามารถทำได้ เพราะการสืบทอดอำนาจของรัฐบาลคือการส่งต่อการทำงานให้แก่รัฐบาลชุดต่อไป

ส่วนการปรองดอง ไม่ใช่เป็นการลดโทษหรือเอาคนที่อยู่ในคุกออกมา หรือนำคนที่อยู่ต่างประเทศกลับมา แต่เป็นการปฏิรูปทางความคิด ที่ไม่ให้ประชาชนขัดแย้งกันอีก พร้อมขอให้ฝ่ายการเมือง เสนอแนวทางการแก้ปัญหาเข้ามาและให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน

ส่วนการสร้างส่วนต่อขยายในการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าให้เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม2561   ขณะเดียวกันรัฐบาลกำลังเจรจาในส่วนที่2 เพื่อเร่งดำเนินต่อซึ่งการทำงานต้องระมัดระวังใช้กฎหมายเพราะทำงานกับนักลงทุนชาวต่างชาติ ซึ่งอาจจะทำให้ขาดความเชื่อมั่นในนักลงทุนได้

นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงมติคณะรัฐมนตรีในการระเบิดแก่งกลางแม่น้ำโขงเพื่อทำล่องน้ำเดินเรือระหว่างประเทศ ซึ่งมีความกังวลว่าจะกระทบต่อการเดินเรือของชาวบ้านและเสี่ยงต่อการเสียดินแดน โดยระบุว่าขณะนี้อยู่ในระหว่างการศึกษาข้อมูลและนำไปชี้แจงในที่ประชุม ซึ่งเมื่อดำเนินแล้วเสร็จก็ต้องไปพูดคุยกับอีกหลายประเทศเนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ใช้ประโยชน์ร่วมกันในกลุ่มลุ่มน้ำโขง พร้อมขออย่ากังวล เนื่องจากมีคณะทำงานในการศึกษาและจะไม่ยอมให้ประเทศไทยเสียดินแดนอยู่แล้ว