กลาโหมฝรั่งเศสเพิ่มสมรรถนะปกป้องเครือข่ายคอมพิวเตอร์ หลังเสี่ยงถูกโจมตีเหมือนสหรัฐฯ

นายฌอง-อีฟ เลอ ดริยอง รัฐมนตรีกลาโหมฝรั่งเศส ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์เลอ จูร์นัล ดู ดิมองช์ ของฝรั่งเศสระบุว่า ฝรั่งเศสไม่ได้เสี่ยงน้อยไปกว่าสหรัฐฯ ในการตกเป็นเป้าหมายการโจมตีเครือข่ายคอมพิวเตอร์จากต่างประเทศ พร้อมประกาศว่ากองทัพฝรั่งเศสจะเพิ่มสมรรถภาพในการปกป้องตนเองและต่อต้านการโจมตีออนไลน์ รัฐมนตรีกลาโหมฝรั่งเศสยอมรับว่าฝรั่งเศสเสี่ยงที่จะเผชิญกับการโจมตีออนไลน์ โดยเฉพาะการโจมตีระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน ทั้งระบบประปา ไฟฟ้า โทรคมนาคม และการขนส่ง เช่นเดียวกับกระบวนการประชาธิปไตยและการทำงานของสื่อมวลชน คำให้สัมภาษณ์ของรัฐมนตรีกลาโหมฝรั่งเศสมีขึ้นหลังหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ เปิดเผยรายงานออกมาว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียมีคำสั่งให้ใช้การโจมตีระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์เพื่อช่วยนายโดนัลด์ ทรัมป์ ให้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขณะที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ของฝรั่งเศสจะมีขึ้นในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคมนี้ ท่ามกลางการประกาศของนายฟร็องซัว ฟียง ผู้นำพรรคอนุรักษ์นิยม ผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสว่าจะพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างฝรั่งเศสกับรัสเซีย และนางมารีน เลอ แปน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสอีกคนหนึ่งจากพรรคขวาจัดที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัสเซีย จึงทำให้เกิดความวิตกว่าอาจจะเกิดการซ้ำรอยกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ รัฐมนตรีกลาโหมฝรั่งเศสกล่าวว่า หากการเลือกตั้งในสหรัฐฯ ถูกแทรกแซงจริง ย่อมหมายถึงการโจมตีระบอบประชาธิปไตยและอธิปไตยด้วย ซึ่งรัฐบาลฝรั่งเศสได้มีการหารือถึงเรื่องดังกล่าว รวมถึงเหตุการณ์โจมตีระบบเครือข่ายของสถานีโทรทัศน์ เตเวแซ็งก์มงด์ (TV5 Monde) เมื่อ พ.ศ. 2558 ซึ่งเกิดจากฝีมือของกลุ่มแฮกเกอร์ชาวรัสเซียแล้ว นอกจากนั้นยังเผยด้วยว่ากระทรวงกลาโหมฝรั่งเศสตกเป็นเป้าหมายการโจมตีออนไลน์เพิ่มขึ้นทุกปี เฉพาะปี 2559 มีความพยายามโจมตีกว่า 24,000 ครั้ง ทำให้เห็นว่ารัฐบาลฝรั่งเศสต้องดำเนินการตอบโต้กลุ่มผู้ไม่หวังดีเหล่านี้ด้วย โดยมีแผนเพิ่มกำลังทหารและผู้เชี่ยวชาญที่ดูแลด้านความมั่นคงทางดิจิทัลอีกเท่าตัว คาดว่าภายใน พ.ศ. 2562 จะมีทหารด้านดิจิทัลจำนวน 2,600 นายและผู้เชี่ยวชาญอีก 600 คน

**12.44F174**