อิทธิพลจากพายุไซโคลนวาร์ดะห์พัดถล่มภาคใต้ของอินเดียมีคนเสียชีวิต 10 ศพ

เอเอฟพี รายงานอ้างนายอภิเษก ชันดิยัล โฆษกสำนักบริหารจัดการอุบัติภัยแห่งชาติของอินเดียว่า มีคนเสียชีวิต 10 ศพ หลังพายุไซโคลนวาร์ดะห์พัดถล่มเมืองเจนไน รัฐทมิฬนาฑู ทางภาคใต้ของอินเดียเมื่อบ่ายวานนี้ ความแรงลม 140 กม.ต่อชม. ระบุว่า หน่วยงานของเขาอยู่ระหว่างการรวบรวมรายงานจากเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ แต่เขาเชื่อว่าขณะนี้ช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดผ่านพ้นไปแล้ว หลังขึ้นฝั่งแล้วพายุค่อยๆอ่อนแรงลง แต่กรมอุตุนิยมวิทยาของอินเดียคาดว่าจะยังคงมีฝนตกหนักในช่วง 12 ชม.นี้ โรงเรียนและวิทยาลัยในเมืองเจนไนและอำเภอใกล้เคียงปิดการเรียนการสอนเป็นวันที่ 2 ในวันนี้

ส่วนความเสียหายอื่นๆ บ้านเรือนหลายหลังถล่มลงมา ต้นไม้และเสาไฟฟ้าหักโค่น ไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้างในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศ ประชาชน 18,000 คนอพยพไปยังที่ปลอดภัย ภาพข่าวทางโทรทัศน์จากเมืองเจนไน แสดงให้เห็นรถยนต์หลายคันพลิกคว่ำกลางถนนจากกำลังแรงของลมและฝนตกหนัก นับเป็นพายุไซโคลนครั้งร้ายแรงที่สุดที่พัดถล่มรัฐทมิฬนาฑูในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา สำหรับเมืองเจนไนเป็นศูนย์กลางแห่งหนึ่งในการผลิตรถยนต์และรับจ้างทำงานด้านไอทีให้กับบริษัทต่างชาติ ด้านสนามบินนานาชาติเมืองเจนไนหยุดให้บริการมาเกือบ 12 ชม.แต่เริ่มเปิดทำการตามปกติในวันนี้ ขณะเดียวกันการเดินรถไฟในท้องถิ่นเริ่มเปิดให้บริการบางส่วน

สำหรับพื้นที่แถบชายฝั่งทางภาคตะวันออกของอินเดียและบังกลาเทศ เพื่อนบ้าน ถูกพายุพัดถล่มอยู่เป็นประจำระหว่างเดือนเมษายนถึงธันวาคม มีคนเสียชีวิตและทรัพย์สินจำนวนมากได้รับความเสียหายในแต่ละปี โดยเฉพาะเมื่อปี 2542 พายุไซโคลนพัดถล่มรัฐโอริสา ทางภาคตะวันออกของประเทศ มีคนเสียชีวิตกว่า 8,000 ศพ/13.50 น.