นายกฯ ปัดตอบปรับครม. รมว.กลาโหม ยังไม่ใช้สิทธิหยุดพัก สั่งสอบการจัดรายการกลุ่มใต้ดิน

หลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ครั้งที่ 5/2559 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี ปฏิเสธที่จะตอบคำถามถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยย้อนถามผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆ ว่า อยากเป็นหรือไม่ 

ขณะที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยอมรับว่า ในการประชุมครม.เมื่อวานนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวในที่ประชุมว่า หากรัฐมนตรีคนไหนเหนื่อยและอยากพักให้มาแจ้งความประสงค์ลาออกจากตำแหน่งที่พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้ทันที แต่สำหรับตัวเองนั้น รู้สึกเหนื่อย แต่ยังไม่ขอใช้สิทธิในการหยุดพัก เพราะทุกวันนี้ เมื่อทำงานเหนื่อยจะหาเวลาพักอยู่ จึงไม่จำเป็นจะขอลาออกในช่วงนี้ การปรับครม.เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีที่จะตัดสินใจ แต่เห็นว่าคงไม่ใช่เวลานี้ ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ลาออกจากตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อไปรับตำแหน่งองคมนตรี ซึ่งทำให้ตำแหน่ง สนช. ว่างลง 1 ตำแหน่ง เป็นอำนาจของหัวหน้า คสช. ที่จะพิจารณาแต่งตั้งบุคคลใดเข้ามาทำหน้าที่

นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงการเผยแพร่ภาพตำรวจปลดป้ายสำนักงาน BBC ประจำประเทศไทย และทุบกระจก เพื่อเข้าไปตรวจค้นยังไม่ได้รับรายงาน และไม่ทราบในรายละเอียด แต่ยืนยันว่า การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นขั้นตอนการตรวจสอบ ทุกอย่างต้องว่าไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดจะต้องไม่ให้มีสร้างปมความขัดแย้งให้เกิดขึ้นในประเทศ

พร้อมกันนี้ ยังปฏิเสธการจัดรายการวิทยุของกลุ่มคนเสื้อแดงใต้ดินที่จัดรายการมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน เพียงแต่การนำเสนอข่าวผ่านโซเชียลมีเดีย โดยสั่งการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบการกระทำของกลุ่มคนเหล่านี้อยู่

พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงการเข้าจับกุมพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายว่า ไม่ได้สั่งการใดๆ เป็นพิเศษ เพราะเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะต้องเข้าไปจับกุม ส่วนจะทำได้แค่ไหนก็แค่นั้น ส่วนกรณีที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกมาระบุว่า จะใช้เวลาในการจับกุมพระธัมมชโย 3 เดือน ขอให้ไปถามผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในเมื่อเป็นเจ้าหน้าที่รัฐก็มีหน้าที่จับกุมผู้กระทำผิด เพื่อเอามาลงโทษตามกฎหมาย

ผู้สื่อข่าว:ปิยะธิดา เพชรดี