สตรีมุสลิม 2 คนถูกทำร้ายที่นิวยอร์คในช่วงห่างกัน 36 ชั่วโมง

สื่อในสหรัฐอเมริกา รายงานว่า พบสตรีมุสลิม 2 คนถูกทำร้ายร่างกายในที่ชุมชน ในลักษณะที่เป็นการก่ออาชญากรรมจากความเกลียดชัง และยังเป็นคดีที่มีสถิติเพิ่มขึ้นมากจนผิดปกติทั่วประเทศนับตั้งแต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

ทั้งนี้ สตรีมุสลิมรายแรกถูกนำส่งโรงพยาบาลเนื่องจากเธอถูกผลักตกบันไดที่สถานีรถไฟแกรนด์ เซ็นทรัล ทำให้ได้รับบาดเจ็บ โดยเธอเป็นพนักงานของบริษัทขนส่ง ซึ่งไม่ได้สวมเครื่องแบบ และถูกลอบทำร้ายระหว่างเดินทางไปทำงาน ซึ่งต่อมานายแอนดรู คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์คเปิดเผยว่า มีพยานที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่าคนร้ายเป็นชาย ตะโกนคำว่าผู้ก่อการร้ายก่อนที่จะผลักเธอ นอกจากนี้ยังมีชายอีกคนที่ถูกจับกุมและปรับเงิน ฐานละเมิดสตรีผู้หนึ่งในย่านบรู๊คลินด์ ซึ่งต่อมาพบว่าเธอเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่นอกเวลางาน และเดินทางมากับบุตรชายอายุ 16 ปี ขณะที่ในมหานครนิวยอร์ค ยังพบการเขียนหรือพ่นสีข้อความตามฝาผนังที่แสดงถึงความเกลียดชังอีกหลายแห่ง

ด้านนายบิล เดอบลาซิโอ นายกเทศมนตรีมหานครนิวยอร์ค กล่าวโทษว่าสืบเนื่องมาจากนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐที่ชูนโยบายซึ่งสร้างความเกลียดชังผู้อพยพ สตรี และมุสลิม ขณะที่มีมุสลิมอเมริกันประมาณ 900 คนที่ทำงานอยู่ในสังกัดของสำนักงานตำรวจทั้งที่เป็นเจ้าพนักงานตำรวจและเจ้าหน้าที่พลเรือน ซึ่งเมื่อวานนี้ ตำรวจนิวยอร์คเพิ่งรายงานว่าสถิติคดีอาชญากรรมเพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 35 เมื่อเทียบกับเมื่อปีที่แล้ว และมีผู้ที่ถูกจับกุมดำเนินคดีมากขึ้นร้อยละ 45 ส่วนใหญ่คือคดีเกลียดชัง

....