รองผบ.ตร.ให้เวลาพระธัมมชโยมอบตัว ถึง 30 พ.ย. ไม่มาขอหมายค้น-จับ

การดำเนินคดีกับพระเทพญาณมหามุณีหรือพระธัมมชโย  พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยัน หากพระธัมมชโย ไม่เข้ามอบตัวภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2559 จะดำเนินการตามขั้นตอนโดยการพิสูจน์ว่า พระธัมมชโย อยู่ภายในวัดหรือไม่  ซึ่งจะขอหมายค้นและจับกุมตัว ไม่ว่าจะอยู่ในอาการอาพาธหรือไม่ก็ตาม เพราะตำรวจมีหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย รวมทั้งจะดำเนินคดีกับรักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายในข้อหาให้ที่พักพิงผู้ต้องหา จากการข่าวพบว่ากว่าร้อยละ80 พระธัมมชโย อยู่ภายในวัด ส่วนอีกร้อยละ20 ไม่พบว่า พระธัมมชโยออกมาปฏิบัติศาสนกิจนานแล้ว ส่วนที่ ศิษยานุศิษย์ ระบุว่า พระธัมมชโย ยังอาพาธ และรักษาตัวอยู่ภายในวัดนั้น ไม่สามารถนำมาเป็นข้ออ้างในการเข้ามอบตัวได้ ส่วนที่มีการระบุว่า หากมีการเข้าปฏิบัติการและทำให้ลูกศิษย์ตกใจ เข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ อยู่ระหว่างให้ฝ่ายกฏหมายพิจารณาตรวจสอบคำพูด ของนายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย ขณะที่ขั้นตอนการเข้าดำเนินการจับกุมนั้น ตำรวจยืนยันว่ามีแผนเผชิญเหตุเพื่อป้องกันความวุ่นวายที่อาจจะเกิดขึ้นได้

พลตำรวจเอกศรีวราห์ ยังเตรียมลงพื้นที่กวาดล้างผู้มีอิทธิพลในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ หลังเกิดเหตุทะเลาะวิวาทในสถานบันเทิง จนทำให้ บุตรชายนายพลทหารบาดเจ็บสาหัส ขณะนี้ได้มอบหมายให้พลตำรวจตรี สมบัติ มิลินทจินดา ในฐานะคณะทำงานปราบปรามผู้มีอิทธิพล ลงพื้นที่ตรวจสอบรายละเอียด โดยยืนยันว่า ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจทหารฝ่ายปกครองได้ดูแลความสงบเรียบร้อยมาโดยตลอด จึงเชื่อว่าไม่มีใครกล้าอยู่เหนือกฎหมาย ส่วนทางคดีขณะนี้ ได้สั่งให้พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดีดำเนินการตามขั้นตอนโดยสอบปากคำไปแล้วหลายปาก พร้อมยืนยันในส่วนของพยานหลักฐานว่าตำรวจในพื้นที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานบันเทิงรวมทั้งผู้มีอิทธิพลในพื้นที่แต่อย่างใด