มารดา1ในผู้เสียชีวิตคดีเบนซ์ชนฟอร์ดเกิดไฟลุก ถ.พหลฯ เมื่อเดือนมี.ค.ขอเป็นโจท์ร่วม

การติดตามคดีนายเจนภพ วีรพร อายุ 37 ปี จำเลยที่ขับรถเบนซ์ พุ่งชนท้ายรถยนต์ฟอร์ด ทำให้เกิดระเบิดไฟลุกท่วมและเป็นเหตุให้นิสิตปริญญาโท มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ ราชวิทยาลัย เสียชีวิต 2ศพ บริเวณถนนพหลโยธิน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อเดือนมีนาคม ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นัดประชุมคดีและสอบคำให้การของจำเลย ในส่วนของฝ่ายโจทย์ ประกอบด้วยมารดาและพี่สาวของนางสาวธันฐภัทร์ ฮ้อแสงชัย อายุ 34 ปี 1ในผู้เสียชีวิต พร้อมกับ นายวิเชียร ชุบไธสง ทนายความฝ่ายโจทก์ ได้เดินทางมาที่ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อประชุมคดีและตรวจเอกสารต่างๆพร้อมกับสืบพยานฝ่ายโจทก์ นายวิเชียร เปิดเผยว่า วันนี้ มารดาของนางสาวธันฐภัทร์ ได้เดินทางมายื่นคำร้องขอร่วมเป็นโจทก์ในคดี หลังจากที่ ก่อนหน้านี้บิดาของนางสาวธันฐภัทร์เคยยื่นคำร้องขอเป็นโจทก์ร่วมด้วย แต่ขณะนี้อยู่ในช่วงบวช เพื่ออุทิศให้กับผู้เสียชีวิต จึงไม่สามารถเดินทางมาได้ อีกทั้งการยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำพิพากษาให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทน รวมทั้งสิ้น100,635,503บาท ซึ่งหากศาลพิพากษาให้นายเจนภพ ชดเชยค่าสินไหม ครอบครัวของนางสาวธันฐภัทร์ จะนำเงินส่วนใหญ่ไปตั้งมูลนิธิสืบสานเจตนารมณ์ที่ผู้เสียชีวิตเคยตั้งไว้ตั้งแต่เด็ก เพื่อบำรุงศาสนา รวมถึงจะตั้งมูลนิธิเพื่อรณรงค์การขับรถอย่างมีสติด้วย

ขณะนี้ศาลกำลังประชุมคดี เพื่อสอบถามนายเจนภพว่าจะรับสารภาพข้อกล่าวหาอื่นอีก6ข้อหรือไม่ เช่น ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด, ขับรถยนต์ในขณะเมาสุรา , เป็นผู้ขับรถขณะเสพยาเสพติดให้โทษตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย นอกเหนือจากข้อกล่าวหา ขับรถโดยประมาทอันอาจเกิดอันตรายแก่ผู้อื่นและทรัพย์สิน เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ที่ก่อนหน้านี้นายเจนภพเคยเซ็นรับสารภาพเป็นลายลักษณ์อักษร

ผู้สื่อข่าว:ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ