กรมชลประทาน เดินหน้าสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยโทก จ.ลำพูน หลังราษฎรขอพระราชทานจากในหลวงรัชกาลที่9

การติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยโทก อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ของกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่จ.ลำพูน โดยนายสมเกียรติ ประจำวงษ์ รองอธิบดีกรมชลประทาน หลังชาวบ้านบ้านห้วยโทก จังหวัดลำพูน ได้ถวายฎีกาขอจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช นายศรีวรรณ นำมา อดีตผู้ใหญ่บ้าน ตำบลป่าพลู อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน ผู้ถวายฎีกา เล่าว่า ชาวบ้านบ้านห้วยโทกมีความเดือดร้อนเรื่องการขาดน้ำในการทำการเกษตรมาหลายปี และเมื่อถึงฤดูฝนน้ำก็ท่วมบ้านเรือนได้รับความเสียหายมาก เคยขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายแห่ง แต่ก็ถูกปฏิเสธ เนื่องจากต้องใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก จึงได้ปรึกษากับชาวบ้านและตัดสินใจทำหนังสือถวายฎีกา เมื่อวันที่ 25 ก.พ.2552 ด้วยความหวังว่าพระองค์จะรับไว้ในโครงการพระราชดำริ หลังจากนั้นอีก 3 เดือน ก็มีจดหมายส่งกลับมาจากสำนักพระราชวังว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงรับทราบความเดือดร้อนของราษฎร และให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องมาสำรวจพื้นที่ ศึกษาหาข้อมูล ก่อนเริ่มดำเนินการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยโทก อันเนื่องมาจากพระราชดำริ นายศรีวรรณ กล่าวว่า แม้รู้ว่าพระองค์ท่านจะทรงเหนื่อยมากและไม่อยากจะรบกวนพระองค์ แต่ก็มีความจำเป็นที่จะต้องทำเช่นนี้ ซึ่งการรับอ่างเก็บน้ำห้วยโทก ไว้เป็นโครงการในพระราชดำรินี้ สร้างความปลาบปลื้มให้แก่ชาวบ้านทุกคนเป็นอย่างมาก 

ด้านนายสมเกียรติ ประจำวงษ์ รองอธิบดีกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า อ่างเก็บน้ำห้วยโทก เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กที่มีความจุ 338,000 ลูกบาศก์เมตร เริ่มก่อสร้างเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ.2559 และคาดว่าจะก่อสร้างเสร็จในปลายเดือนมกราคม พ.ศ.2560 โดยเมื่อสร้างอ่างเก็บน้ำเสร็จแล้ว จะสามารถเป็นแหล่งน้ำอุปโภคบริโภคและใช้ในการเกษตรให้แก่ชาวบ้านได้จำนวน 250 ครัวเรือน ทำให้ชาวบ้านสามารถประกอบอาชีพได้ทั้งปี และยังช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วมในหมู่บ้านช่วงฤดูน้ำหลาก ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังจะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลา ทำให้เกิดอาชีพประมงขึ้น สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านอีกทาง 

ทั้งนี้ จากการสำรวจพบว่า บริเวณพื้นที่เหนืออ่างเก็บน้ำห้วยโทกเป็นอุทยานแห่งชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์ของป่า ทำให้ลำน้ำห้วยโทกมีน้ำไหลตลอดทั้งปีการก่อสร้างอ่างในพื้นที่จึงทำให้มีน้ำเติมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากมีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพก็จะสามารถสร้างประโยชน์ให้กับชาวบ้านและชุมชนได้ โดยกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะมีการจัดตั้งกลุ่มผู้ใช้งานพร้อมทั้งให้ความรู้ความเข้าใจอย่างถูกต้อง นอกจากนี้ยังได้เน้นย้ำไปยังตัวแทนของชาวบ้าน ว่าเมื่ออ่างเก็บน้ำสร้างเสร็จ ก็อยากที่จะให้ทุกคนใช้น้ำ อย่างมีค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด นอกจากนี้จะเร่งนำโครงการ ตามพระราชดำริที่ยังไม่มีระบบการส่งน้ำทั้งหมด มาดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในปีนี้ด้วย

ผู้สื่อข่าว:เกตุกนก ครองคุ้ม