ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ย้ำ 44ปี กทพ. มุ่งมั่นพัฒนาเครือข่ายทางพิเศษเชื่อมโยงเส้นทางบรรเทาการจราจร

การทางพิเศษแห่งประเทศไทย หรือ กทพ. จัดงานคล้ายวันก่อตั้งครบรอบปีที่ 44 โดยมี พลเอกวิวรรธน์ สุชาติ ประธานกรรมการ กทพ. เป็นประธานในพิธี นายณรงค์ เขียดเดช ผู้ว่า กทพ. เปิดเผยว่า 44 ปีที่ผ่านมา กทพ. ได้มุ่งมั่นแก้ไขปัญหาการจราจรในกรุงเทพและปริมณฑล ตามบทบาทหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ให้สอดคล้องตามนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงคมนาคม ที่มุ่งเน้นการพัฒนาเครือข่ายระบบทางพิเศษให้เชื่อมโยงกันอย่างบูรณาการ ช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน

ปัจจุบัน กทพ. ได้เปิดให้บริการทางพิเศษแล้ว 7 สายทาง และล่าสุดได้มีการขยายโครงข่ายทางพิเศษเชื่อมโยงพื้นที่กรุงเทพมหานครด้านตะวันตก เข้าสู่ใจกลางเมืองด้วยโครงการทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครระยะทาง 16.7 กิโลเมตร ซึ่งได้เปิดให้บริการไปแล้วเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2559 รวมระยะทางทางพิเศษ ที่เปิดให้บริการแล้วทั้งสิ้น  224.6 กิโลเมตร

นายณรงค์ กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันมีผู้ใช้ทางพิเศษเฉลี่ยวันละกว่า 1 ล้าน 8 แสนเที่ยว สูงสุดถึงวันละ 2 ล้าน 1 แสนเที่ยว และมียอดผู้ใช้บัตร Easy Pass กว่า 1 ล้าน 2 แสนบัตร และล่าสุดหลังเที่ยงคืนของวันที่ 31 ตุลาคม 2559 กทพ. ได้พัฒนาระบบเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติ ร่วมกับกรมทางหลวง ให้บัตร Easy Pass ของกทพ. สามารถเข้าไปใช้ในระบบ M-Pass ของกรมทางหลวงสาย 7 และสาย 9 ของกรมทางหลวงได้ ซึ่งทำให้ผู้บริการได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

นอกจากภารกิจในการแก้ไขปัญหาจราจรแล้ว กทพ. ยังตอบแทนคืนสู่สังคม โดยดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมในหลากหลายมิติ อาทิ การจัดพื้นที่ในเขตทางพิเศษ เพื่อทำสวนสาธารณะ ลานกีฬา เส้นทางลัด การมอบพื้นที่ใต้ทางพิเศษ บริเวณใต้ทางพิเศษอุรุพงษ์ แก่สำนักราชเลขาธิการ เพื่อจัดสร้างลานกีฬาพัฒน์ และมอบพื้นที่ใต้ทางพิเศษฉลองรัช บริเวณรามอินทรา ให้แก่กระทรวงมหาดไทย เพื่อจัดทำศูนย์กระจายสินค้าโอทอปทั้งนี้ กทพ. ได้มอบพื้นที่เพื่อสาธารณประโยชน์ไปแล้วกว่า 300,000 ตารางวา นอกจากนี้ยังได้ส่งเสริมการศึกษาแก่เยาวชน โดยการมอบทุนการศึกษาและอุปกรณ์การเรียน ฯลฯ

สำหรับโอกาสครบรอบ 44 ปี ของ กทพ. ที่พิเศษไปกว่าทุกปี คือการจัดโครงการบรรพชาอุปสมบท นะวะกะภิกษุ กทพ. จงรักภักดี จำนวน 89 รูป เพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศลอุทิศพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งนวกภิกษุทั้ง 89 รูป ได้เดินทางมารับบาตรที่ กทพ. ในพิธีสงฆ์ช่วงเช้าด้วย

โดย กทพ. จะยังคงมุ่งมั่นดำเนินงานพัฒนาโครงข่ายทางพิเศษ เพื่อแก้ไขปัญหาจราจร รวมถึงลดการสูญเสียพลังงาน และน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างต่อเนื่อง โดยให้ความสำคัญในการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างสรรค์และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไว้ อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติโดยรวมต่อไป  ภายในงาน ผู้ว่าการ กทพ. ได้มีการมอบเกียรติบัตร ของที่ระลึก และรางวัลแก่พนักงาน กทพ. ด้วย