ทรัมป์ รับประกัน จะไม่มีปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน ระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับการบริหารประเทศ

บีบีซีรายงานว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ มหาเศรษฐีด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งนิตยสารฟอร์บส์ประเมินว่ามีบริษัทในเครือกว่า 500 แห่ง มีมูลค่าทรัพย์สิน 3,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กล่าวว่าเขาจะไม่ตัดสัมพันธ์กับธุรกิจของเขาก่อนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคมปีหน้า ในการให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ นายทรัมป์ระบุว่าในทางทฤษฏีเขาสามารถจะทำธุรกิจได้อย่างดีเยี่ยมและจะบริหารประเทศได้อย่างดีเยี่ยมเช่นเดียวกัน แต่เพิ่มเติมว่าเขาต้องการจะทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อแยกบทบาทหน้าที่ในเรื่องสองนี้ให้ชัดเจน

ก่อนหน้านี้ สว.เบน คาร์ดิน จากพรรคเดโมแครตกล่าวว่าเขาจะเสนออญัตติหนึ่งให้ที่ประชุมสภาคองเกรสพิจารณาในสัปดาห์หน้า เพื่อเรียกร้องให้นายทรัมป์ขายทิ้งทรัพย์สินของเขา เพื่อพิสูจน์ว่าเขาไม่ประสงค์จะแสวงหาผลกำไรจากการเข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ระบุว่าเขาจะเรียกร้องให้ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯโอนขายหุ้นออกไปหรือมาตรการคล้ายกันนี้ เพื่อให้สามารถปฏิบัติหน้าที่บริหารประเทศให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญในประเด็นเรื่องการขัดกันแห่งผลประโยชน์

หนึ่งตัวอย่างของการขัดกันแห่งผลประโยชน์คือโรงแรมทรัมป์ อินเตอร์เนชั่นแนล โฮเต็ลซึ่งเพิ่งเปิดเมื่อเร็วๆนี้ในกรุงวอชิงตันดีซี คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้าพักมากเป็นพิเศษในช่วงนี้ต่อเนื่องไปจนถึงวันเข้าทำพิธีรับตำแหน่งของนายทรัมป์ ที่สำคัญโรงแรมนี้ตั้งอยู่บนที่ดินที่เช่าจากรัฐบาลกลาง เมื่อนายทรัมป์เข้ารับตำแหน่งแล้ว เขาก็จะเป็นทั้งผู้เช่าและผู้ให้เช่าในขณะเดียวกัน สำหรับสหรัฐฯไม่มีข้อบทบัญญัติทางกฏหมายอย่างชัดเจนให้ผู้ที่จะเข้าดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศต้องขายทิ้งกิจการ แต่ประธานาธิบดีสหรัฐฯในอดีตไม่เคยเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเจรจาทางธุรกิจ เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง/17.55 น.