DSIพร้อมจับกุมพระธัมมชโย หลังได้รับหนังสือ ส่งฟ้องจากอัยการสูงสุด ในคดีฟอกเงิน

หลังจากที่สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) มีความเห็นควรสั่งฟ้องพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย และ น.ส.ศศิธร โชคประเสริฐ ในฐานความผิดสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และรับของโจร ในคดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า ในส่วนของดีเอสไอ ก็จะต้องดำเนินการให้ได้ตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน มาส่งฟ้องตามที่อัยการสั่งคดี ซึ่งเป็นหน้าที่ของดีเอสไออยู่แล้ว ทั้งนี้ ตามขั้นตอนหลังจากที่อัยการมีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ก็จะมีหนังสือส่งให้ดีเอสไอจัดการให้ได้ตัวผู้ต้องหามามอบให้กับอัยการ ดีเอสไอได้ดำเนินการติดตามและประเมินสถานการณ์ของวัดพระธรรมกายอยู่อย่างต่อเนื่อง เพื่อใช้ในการวางแผนเข้าจับกุมพระธัมมชโยมาดำเนินคดีตามกฎหมาย พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า ดีเอสไอ พร้อมเข้าจับกุม พระธัมมชโย ทันทีหากมีหนังสืออย่างเป็นทางการจากอัยการส่งมายังดีเอสไอ ทั้งนี้ จะได้ร่วมประสานหน่วยงาน ตำรวจ ทหาร เพื่อสนธิกำลัง เข้าจับกุม ส่วนแผนปฏิบัติการได้ทำไว้หมดแล้ว

ด้านพลตำรวจเอก ศรีวราห์ รังสิพรามหณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่า คำสั่งฟ้องเป็นสำนวนของดีเอสไอ ไม่เกี่ยวข้องกับสำนวนคดีของตำรวจที่รับผิดชอบคดีบุกรุกป่าสร้างศูนย์ปฎิบัติเวิลด์พีชวัลเลย์ เขาใหญ่ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา แต่หากดีเอสไอร้องขอหรือให้สนับสนุนกำลังในการเข้าตรวจค้นจับกุม ก็สามารถปฏิบัติได้ทันที แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานมาแต่อย่างใด

รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยอมรับว่า หากมีความจำเป็นและสืบสวนจนแน่ชัดว่าพระธัมมชโย ยังจำวัดอยู่ภายในวัดพระธรรมกาย พนักงานสอบสวนจะต้องขอหมายค้นจากศาล เพื่อเข้าตรวจค้นและจับกุมตามหมายจับของศาลจังหวัดสีคิ้ว ในข้อหาบุกรุกป่าสร้างศูนย์ปฎิบัติเวิลด์พีชวัลเลย์ เขาใหญ่  โดยขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ส่งหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหา โดยผ่านพระผู้ใหญ่แล้ว แต่ยังไม่มีประสานหรือติดต่อกลับ พร้อมยืนยันว่าตำรวจไม่ได้ยืดเวลาในการเข้าจับกุม แต่ต้องทำตามขั้นตอนของกฏหมายก่อน

ผสข.พนิตา สืบสมุทร/ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ