ผบ.ตร. เผยมีหลายช่องทางในการควบคุมตัวผู้ต้องหาคดี ม.112 ที่อยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน

การติดตามตัวผู้ต้องหาที่กระทำความผิดตามประมวลอาญา มาตรา 112 และหลบหนีไปพักอาศัยในประเทศลาว พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในระดับรัฐบาลไทยและรัฐบาลลาว น่าจะมีการพูดคุยกันแล้ว ขณะนี้เพียงรอการส่งสัญญาณมา โดยผู้ต้องหาที่หลบหนีไปยังประเทศลาว มีเป็นจำนวนมาก และช่องทางการในส่งตัวผู้ต้องหามีหลายช่องทาง ทั้งทางการทูต และทางอินเตอร์โปล

ส่วนกรณีที่นายคารม พลพรกลาง ทนายความ แจ้งความดำเนินคดีกับนางสาวอรพิม รักษาผล หรือเบสท์นักพูดชื่อดัง ที่พูดหมิ่นประมาทคนอีสานนั้น พล.ต.อ. จักรทิพย์ เปิดเผยว่า จะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง ทั้งพยาน หลักฐาน ว่าเข้าข่ายยุยงให้มีการแตกแยกหรือไม่ ทั้งต้องจับตากลุ่มมวลชนที่พยายามนำกรณีนี้ไปปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยกรุนแรง

สำหรับกรณีที่มีการปล้นรถขนเงิน ชิงเงินสดกว่า 5 ล้านบาท ของธนาคารกรุงไทย ที่ปั๊มน้ำมัน ในอำเภอสองพี่น้อง จ. สุพรรณบุรี พล.ต.อ. จักรทิพย์ ระบุว่า คดีนี้มีความคืบหน้า โดยเมื่อคืนนี้ พล.ต.ท. สุวิระ ทรงเมตตา รักษาราชการที่ปรึกษา สบ. 10 ได้เดินทางไปติดตามความคืบหน้าคดีด้วยตัวเอง และในวันนี้ได้สั่งการให้ พล.ต.อ. เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไปควบคุมสั่งการ จึงเชื่อว่าจะสามารถคลี่คลายคดี และจับกุมตัวคนร้ายได้ในไม่ช้า

ส่วนการกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการดูแลพื้นที่ ไม่ให้มีบ่อนการพนัน พล.ต.อ. จักรทิพย์ กำชับว่าห้ามปล่อยปละละเลย หากพื้นที่ไหนมีการจับกุม จะต้องมีคำสั่งให้ผู้ที่ดูแลพื้นที่นั้น มาช่วยราชการ สำหรับกรณีที่ทางผู้บัญชาการตำรวจนครบาล มีแนวคิดจะพิจารณาตั้งชุดเฉพาะกิจ ในปราบปรามบ่อนการพนันโดยเฉพาะนั้น เป็นเรื่องที่แต่ละพื้นที่จะบริหารจัดการ ซึ่งหากจะดำเนินการจัดตั้งจริงๆ ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร และมีการพูดคุยกับทางผู้บัญชาการตำรวจนครบาลบ้างแล้ว

ส่วนกรณีแนวคิดการเชื่อมต่อกล้องวงจรปิดทั่วประเทศของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงนั้น พล.ต.อ. จักทิพย์ เชื่อว่า เป็นนิมิตหมายที่ดี ที่จะช่วงป้องกันและปราบปราบปัญหาอาชญากรรมได้มาก โดยการติดตั้งกล้องวงจรปิดต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีส่วนร่วมในการเลือกจุดติดตั้งกล้อง เนื่องตำรวจจะรู้ว่าพื้นที่ไหนเป็นพื้นที่เสี่ยง โดยคาดว่าการติดตั้งน่าจะใช้เวลาไม่เกิน 1-2 เดือน  ขณะที่การติดกล้องดัมมี่ ตามหลักการแล้วควรมีไว้บ้าง และส่วนตัวก็มองว่า นอกจากกล้องวงจรปิดแล้ว กล้องจากโทรศัพท์มือถือของของประชาชน ก็สามารถช่วยป้องกันปัญหาอาชญากรรมได้อีกทางหนึ่งด้วย

..

ผสข.สมจิตร์ พูลสุข