ญี่ปุ่นเตือนภัยสึนามิ/จีนเสนอทางเลือกข้อตกลงการค้าที่ไม่มีสหรัฐ

เกิดแผ่นดินไหวใกล้ชายฝั่งทางด้านตะวันออกของเกาะฮอนชู ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเวลา 3.59 น. ตามเวลาประเทศไทย ที่ละติจูด 37.38 องศาเหนือ ลองจิจูด 141.36 องศาตะวันออก ขนาด 7.1 ความลึกประมาณ 10 กิโลเมตร จากนั้นมีแผ่นดินไหวระลอกย่อยเกิดขึ้นมาอีก 3 ครั้งซึ่งมีขนาดมากกว่าระดับ 5.1 ทั้งหมด

ด้านทางการญี่ปุ่นรายงานว่า แผ่นดินไหวมีขนาด 7.3 ที่บริเวณนอกจากฝั่งใกล้จังหวัดฟูกูชิมา และประกาศเตือนภัยคลื่นยักษ์สึนามิที่อาจมีความสูงถึง 3 เมตร จึงให้ประชาชนในพื้นที่ชายฝั่งอพยพขึ้นที่สูง ส่วนที่มิยาหงิ อิบาระหงิ อิวาเตะ ชิบะ อาจมีสึนามิความสูง 1 เมตร ขอให้ประชาชนอพยพขึ้นที่สูงทันทีเช่นกัน

ผู้นำกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือ เอเปค ที่กรุงลิมา ประเทศเปรู ออกแถลงการณ์ความร่วมมือเพื่อต่อสู้ลัทธิกีดกันการค้าทุกรูปแบบ โดยให้การสนับสนุนข้อตกลงการค้าทั้งฉบับที่สหรัฐ และจีนเป็นผู้เสนอ ซึ่งในระหว่างการประชุมมีการเสนอความเห็นให้เดินหน้าความตกลงทีพีพีต่อไป โดยไม่มีอเมริกา

ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน กล่าวในการประชุมเอเปค ว่าจีนจะเปิดกว้างทางเศรษฐกิจมากขึ้นในช่วงที่ผู้นำของประเทศต่างๆ กำลังมองหาข้อตกลงการค้าใหม่ๆ หลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศจะยกเลิกข้อตกลงการค้าเสรี ประธานาธิบดีจีน กล่าวด้วยว่า โลกต้องมุ่งมั่นที่จะสร้างประชาคมซึ่งมีอนาคตร่วมกัน และต้องหันหน้าเข้าหากันมากกว่าจะทำตัวเหินห่างจากกัน รวมถึงเพิ่มความร่วมมือในภูมิภาค สร้างกฎระเบียบร่วมกัน เพื่อให้ได้ประโยชน์อย่างเท่าเทียมกัน และไม่ยอมรับความพยายามที่จะกันใครหรือประเทศใดออกไป

นายทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐเปิดเผยว่าจะเข้าพักในทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตันทันทีที่รับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคมปีหน้า แต่นางเมลาเนีย ทรัมป์ ว่าที่สุภาพสตรีหมายเลข 1 และเด็กชายบาร์รอน อายุ 10 ปี ซึ่งเป็นบุตรชายและยังเรียนอยู่เกรด 4 ที่โรงเรียนในแมนฮัตตัน จะยังพักอยู่ใน นครนิวยอร์กจนกว่าเด็กชายบาร์รอนจะจบภาคเรียนในปีหน้า

นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ แห่งสหราชอาณาจักร เตรียมเผยยุทธศาสตร์อุตสาหกรรม ซึ่งจะใช้เงินหลายพันล้านปอนด์ในโครงการด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการวิจัย เพื่อกระตุ้นการทำธุรกิจแนวทางใหม่ ทั้งยังจะมีการตั้งกองทุนยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมเพื่อสนับสนุนเทคโนโลยีด้านหุ่นยนต์และ เทคโนโลยีชีวภาพ ร่วมด้วยการคงภาษีนิติบุคคลในระดับต่ำสุดในหมู่เศรษฐกิจใหญ่สุด 20 ประเทศในโลก พร้อมสัญญาจะลดภาษีจากร้อยละ 20 เหลือร้อยละ 17 ภายในปี 2563

จำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุรถไฟตกรางในอินเดีย เพิ่มขึ้นเป็น 142 ศพ และยังมีความเป็นไปได้ที่จะพบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก ตามที่การรถไฟอินเดียเชื่อว่า ขณะเกิดเหตุจะมีผู้โดยสารมากกว่า 2,000 คน เนื่องจากยังมีผู้โดยสารจำนวนมากที่ลักลอบเดินทางทำให้ไม่มีตั๋ว หรือไม่ได้จองที่นั่ง

สำหรับการสอบสวนสาเหตุเบื้องต้นพบว่า สาเหตุเกิดจากรางรถไฟหัก ทำให้รถด่วนสายอินดอร์-ปัฏนา ตกรางเมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. ของวันอาทิตย์

เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายกลางประชาชนจำนวนมากภายในมัสยิดมุสลิมชีอะห์ ในกรุงคาบูล เมืองหลวงอัฟกานิสถาน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 27 คน บาดเจ็บอีก 35 โดยในขณะเกิดเหตุ ชาวมุสลิมชีอะห์กำลังประกอบพิธีรำลึกถึงการเสียชีวิตของอิหม่าม ฮุสเซน หลานชายของพระศาสนาโมฮัมหมัด ที่ถูกสังหารในอิรัก 680 ปีหลังคริสตกาล

ราคาน้ำมันแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์เนื่องจากสมาชิกโอเปกจะมีการประชุมเพื่อตรึงกำลังการผลิตในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 1.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 47.49 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 2.04 ดอลลาร์ ปิดที่ 48.90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ขณะที่ดัชนีหลักของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้แรงสนับสนุนที่ดีจากหุ้นกลุ่มพลังงาน

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 88.76 จุด หรือร้อยละ 0.47 ปิดที่ 18,956.69 จุด

เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 16.28 จุด หรือร้อยละ 0.75 ปิดที่ 2,198.18 จุด

แนสแดค เพิ่มขึ้น 47.35 จุด หรือร้อยละ 0.89 ปิดที่ 5,368.86 จุด

….