กทม.ประชุมร่วมชุมชนริมน้ำตามโครงการพัฒนาริมฝั่งเจ้าพระยา คาด4เดือนชัดเจนค่าชดเชย

การเจรจาเพื่อให้การช่วยเหลือด้านที่อยู่อาศัย ในโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมีชาวชุมชนราชผาติการาม ชุมชนมิตตคาม เข้าร่วมประชุมพร้อมกับสำนักการโยธา สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) นายไทวุฒิ ขันแก้ว ผู้อำนวยการสำนักงานออกแบบ สำนักงานโยธา กรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวว่า ขณะนี้สถาบันพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ซึ่งเป็นหน่วยงานผู้รับผิดชอบออกแบบได้มีการส่งแบบมาแล้ว โดยอยู่ในขั้นพิจารณาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนการพิจารณาเงินช่วยเหลือให้ชาวชุมชน ทั้ง 10 ชุมชนที่ต้องย้ายออกจากพื้นที่ จะต้องนำเข้าเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)ก่อน แต่หลักการการจ่ายเงินจะคิดตามสภาพและขนาดของตัวบ้านแต่ละหลัง โดยคิดราคาเป็นตารางเมตรตามสภาพบ้าน พร้อมขอไม่ให้ชาวชุมชนกังวลในเรื่องนี้  ขณะนี้จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปสอบถามความเดือดร้อน รวมทั้งดูสภาพตัวบ้าน จึงขอให้ชาวชุมชนให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่คาดว่าไม่เกิน 4 เดือน จะสามารถระบุตัวเลขเงินค่าชดเชยได้ ทั้งนี้ค่าชดเชยจะกำหนดไว้ 3 ส่วน ประกอบด้วย ค่ารื้อถอน ค่าขนย้าย และค่าสูญเสียรายได้ ที่จะจ่ายให้กับชาวบ้านที่ประกอบอาชีพริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ถูกต้องและได้รับอนุญาตจากกรมเจ้าท่าเท่านั้น ส่วนการชดเชยด้านสถานศึกษา การประกอบอาชีพ หากอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครแล้ว ต้องย้ายเจ้าหน้าที่จะเป็นผู้ประสานให้ โดยยืนยันให้ความเป็นธรรมกับชาวชุมชนและไม่มีส่วนได้เสียอะไรกับการย้ายออกของชาวชุมชนทั้งสิ้น ทั้งนี้มีแผนที่จะเริ่มก่อสร้างประมาณเดือนมิถุนายน 2560 โดยเริ่มจากฝั่งธนบุรีก่อน เนื่องจากมีชุมชนที่ได้รับผลกระทบเพียงชุมชนเดียว ส่วนฝั่งพระนคร ยังติดปัญหาในเรื่องรูปแบบอยู่เล็กน้อยที่จะต้องแก้ไขให้เสร็จสิ้น

ด้านนายจีรศักดิ์ พูลสง ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการที่อาศัยชุมชนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน  กล่าวว่า ในการรื้อย้ายออกจากชุมชน ได้มีการเตรียมสถานที่รองรับไว้ 4 แห่งแล้ว ประกอบด้วยแฟลตของกรมการขนส่งทหารบก(ขส.ทบ.) ซึ่งมีชาวบ้านไปอยู่แล้ว 64 ครัวเรือน นอกจากนี้ยังจัดสรรพื้นที่บ้านเอื้ออาทร ตำบลท่าตำหนัก จ.นครปฐม โดยชาวบ้านจะจ่าย 2,376 บาท ระยะเวลา 20 ปี และมีการจัดหาที่ดินว่าง อีก 2 ไร่ เพื่อจัดสรร บ้านให้ 12-15 ตารางวา โดยชาวบ้านจ่ายเงิน 2,580 บาท 20 ปี นอกจากนี้ยังมีการเช่าที่ดินจากกรมธนารักษ์ ในพื้นที่ 3 งาน เพื่อสร้างตึกที่จะสามารถรองรับชาวชุมชนได้อีก 40 ครัวเรือน ส่วนผู้สูงอายุ ที่อาศัยลำพังจะให้อยู่โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายตลอดชีวิต โดยจะสำรวจจำนวนผู้สูงอายุอีกครั้ง

ด้านนายอุทัย เหลืองทอง กรรมการชุมชนราชผาทับทิมร่วมใจ กล่าวว่า ชาวชุมชนทุกคนเข้าใจและพร้อมที่จะย้ายออก แต่ขอให้ภาครัฐให้ความชัดเจนในเรื่องการจัดสรรที่อยู่อาศัย รวมทั้งเงินเยียวยา ที่ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนถึงกระบวนการการทำงานภาครัฐ จึงไม่สามารถไปทำความเข้าใจกับชาวบ้านส่วนที่เหลือได้ อีกทั้งอยากขอให้ภาครัฐ ลงมาคุยกับคณะกรรมการแต่ละชุมชนเอง เพราะจะรับรู้ถึงปัญหาโดยตรง ไม่ใช่ส่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาแทน

ผู้สื่อข่าว:เกตุกนก ครองคุ้ม