ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการตรวจสอบข้าวคงเหลือของรัฐ ได้เรียกประชุมเชิงปฏิบัติการ เพื่อมอบนโยบายและชี้แจงแนวทางในการตรวจสอบความมีอยู่จริงของปริมาณข้าวที่เก็บไว้ในโกดัง ก่อนลงพื้นที่สุ่มตรวจโกดังข้าวทั่วประเทศกว่า 1 พันแห่ง ที่คาดว่าจะเริ่มตรวจได้ตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค. นี้เป็นต้นไป โดยจะตรวจสอบทั้งข้าวขาวและข้าวหอมมะลิ แบ่งเป็นพื้นที่ภาคเหนือมากที่สุดประมาณ 50 คณะ ส่วนที่เหลือเป็นภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ตามลำดับ คาดว่าจะใช้เวลาวิเคราะห์ผลการตรวจสอบประมาณ 75 วัน จึงจะจะทราบความชัดเจน
โดยคณะตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวฯดังกล่าว มีจำนวนทั้งหมด 100 ชุด ประกอบด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคลัง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.) และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ซึ่งกองทัพจะเป็นหน่วยงานหลักในการตรวจสอบ ขณะที่กระทรวงพาณิชย์มีหน้าที่สนับสนุนข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนโกดังและปริมาณข้าว โดยยึดข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2557 เป็นหลัก ตามรายงานล่าสุดขององค์การคลังสินค้า (อคส.)และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร
สำหรับ ปัญหาหลักของการตรวจสอบสต๊อคคือ ปริมาณข้าวที่ระบุไว้ในเอกสารของกระทรวงการคลัง และกระทรวงพาณิชย์ กับในพื้นที่จริงไม่ตรงกัน บางพื้นที่พบการสูญหาย บางพื้นที่มีการสอดไส้ข้าวเสื่อมคุณภาพ ซึ่งหากตรวจสอบพบว่ามีการทุจริต หัวหน้าคณะตรวจสอบสามารถดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีได้ทันที