วธ.เตรียมเผยแพร่พระอัจฉริยภาพด้านภาษาและวรรณกรรม/นายกฯลงพท.ปทุมฯ ช่วงบ่ายประชุมนบข./เจ็บ5คาร์บอม์ที่จ.ปัตตานี

+++การแสดงความจงรักภักดีของประชาชน นายสุภัทร์ สุทธิมนัส อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา พร้อมด้วยผู้พิพากษา ,ข้าราชการ ,เจ้าหน้าที่ และลูกจ้างในศาลอาญา กว่า 250 คน ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแสดงพลัง จัดแปรอักษรชุด “ขอสืบสานพระราชปณิธาน ขอเก็บรูปที่มีทุกบ้านตลอดไป เพื่อแสดงความอาลัยและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ที่ศาลอาญา

+++นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ (ศตส.) ที่ทำเนียบ

+++พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุมกองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง กอร.รส. ณ สนามหลวง

+++นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เตรียมเผยแพร่พระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ด้านภาษา และวรรณกรรม เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้  ที่ประชุมเห็นชอบให้รวบรวมพระราชนิพนธ์ของพระองค์เบื้องต้นพบว่ามีวรรณกรรมและบทความที่ทรงพระราชนิพนธ์ทั้งหมด 17 เรื่อง เช่น พระราชานุกิจรัชกาลที่ 8,  พระมหาชนก, นายอินทร์ผู้ปิดทองหลังพระ, ติโต, พระราชดำรัส, ทองแดง เป็นต้น โดยจะคัดเลือกหนังสือพระราชนิพนธ์บางเรื่อง โดยเรื่องที่ได้รับคัดเลือกจะจัดพิมพ์เรื่องละ 10,000 เล่ม เพื่อจัดพิมพ์เป็นหนังสือที่ระลึกในงานพระราชพิธีพระบรมศพ แจกจ่ายห้องสมุด และโรงเรียนทั่วประเทศ รวมถึงเผยแพร่ในรูปแบบอีบุ๊กด้วย

+++การปรับพื้นที่ท้องสนามหลวง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมคืนพื้นที่ทางด้านทิศใต้ของท้องสนามหลวงให้กับกรมศิลปากร เพื่อเตรียมสำหรับการสร้างพระเมรุมาศ  โดยหน่วยงานบางส่วนได้เริ่มย้ายออกจากพื้นที่ทิศใต้ของสนามหลวงตั้งแต่วันที่ 16 พ.ย.ไปยังพื้นที่ทางทิศเหนือของท้องสนามหลวง และจะทยอยย้ายออกจากพื้นที่ให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด

+++บริเวณพื้นที่ด้านทิศใต้ของท้องสนามหลวง ติดกับพระบรมมหาราชวัง เจ้าหน้าที่จากสำนักสถาปัตยกรรม กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ได้เริ่มวัดระดับพื้นดินเบื้องต้นเพื่อส่งมอบเป็นข้อมูลให้กับสถาปนิกสำหรับเป็นข้อมูลประกอบการจัดเตรียมการก่อสร้างพระเมรุมาศ

+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และคณะ ลงพื้นที่จ. ปทุมธานี เพื่อตรวจราชการโครงการพัฒนาพื้นที่แก้มลิงเพิ่มรายได้ในพื้นที่เกษตรทุ่งรังสิต อ.หนองเสือ นายกฯ รับฟังรายงานจากอธิบดีกรมชลประทาน พร้อมทั้งรับฟังรายงานจากนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบึงซำอ้อ  ที่ สวนปาล์มน้ำมัน และเรือดูดตะกอนเลนในร่องสวน จากนั้น นายกฯ พบประชาชน ณ ที่ทำการ อบต.บึงซำอ้อ อ.หนองเสือ ประชุมหารือกับเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนาและคณะ ที่อาคารสำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา โครงการสระเก็บน้ำพระราม9 อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต.คลองหลวง อ.ธัญบุรี พร้อมทั้ง รับฟังรายงานจากผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค ที่โรงผลิตน้ำประปาพระราชทาน โครงการสระเก็บน้ำพระราม9 อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต.คลองหลวง จากนั้นเดินทางกลับ นัดประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.)  ที่ทำเนียบรัฐบาล

+++การประชุมนบข.วันนี้ คาดว่าจะมีมาตรการช่วยเหลือข้าวเหนียว น่าจะใช้เงื่อนไขเดียวกับมาตรการข้าวหอมมะลิ นายระวี รุ่งเรือง ประธานเครือข่ายชาวนาไทย มองว่า เป็นแนวทางที่ดี ทำให้ชาวนาได้มีทางเลือกมากขึ้น หากยังไม่พอใจราคาข้าวในปัจจุบัน อาจเข้าโครงการจำนำ ยุ้งฉาง เพื่อเก็บข้าวไว้รอราคาที่ข้าวจะสูงขึ้นในอนาคตแล้วค่อยนำออกมาขาย หรือหากชาวนาคนไหนที่ไม่เข้าร่วมก็ยังได้รับเงินช่วยเหลือในการเก็บเกี่ยวตันละ 2,000 บาท เช่นเดียวกับผู้ปลูกข้าวรายอื่นๆ

+++ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนพยานจำเลย ในคดีที่อัยการสูงสุด(อสส.) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะนำนายอำพน กิตติอำพน อดีตเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และนายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย อดีต รมช.คลัง มาไต่สวน

+++การสอบวินัยร้ายแรงเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) หลังจากที่พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ ลงนามในคำสั่งพักราชการและตั้งกรรมการสอบสวนความผิดทางวินัยสองสามีภรรยาข้าราชการดีเอสไอ ระดับ 7-8 ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริตในคดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น โดยพบว่าหักค่านายหน้า 60 ล้านบาท ในการขายที่ดินของสหกรณ์ฯคลองจั่น จำกัด ให้กับบริษัท พิษณุโลก เอทานอล จำกัด โดยเงิน 40 ล้านบาท เชื่อมโยงกับข้าราชการดีเอสไอทั้งสองราย พนักงานสอบสวนสำนักคดีอาญาพิเศษ 3 จึงแจ้งข้อหาฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงินกับข้าราชการทั้งสอง คณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงจะใช้เวลาสอบสวนภายใน 30 วัน และสามารถขยายระยะเวลาได้ ระหว่างนี้จะต้องเรียกข้าราชการทั้งสองรายเข้าให้การชี้แจงตาม พยานหลักฐานที่พนักงานสอบสวนพบความเชื่อมโยงของเงินที่ปรากฏในบัญชี         

+++คดีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต อดีตรมว.กลาโหม เรื่องขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งของกระทรวงกลาโหม ที่ให้ปลดนายอภิสิทธิ์ออกจากราชการ นายไพบูลย์ โพธิ์น้อย  ทนายความนายอภิสิทธิ์ เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวศาลแพ่ง ซึ่งเป็นศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 2558 ว่าคำสั่งของกระทรวงกลาโหมชอบแล้ว จากนั้น นายอภิสิทธิ์ ได้ยื่นอุทธรณ์ ซึ่งการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ เมื่อวานนี้ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลย คือ พล.อ.อ.สุกำพล ไม่มีอำนาจสั่งปลดโจทก์ออกจากราชการ ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยวินัยทหาร พ.ศ.2476 มาตรา 7 การอุทธรณ์ของโจทก์ฟังขึ้น จึงพิพากษากลับเป็นว่าให้เพิกถอนคำสั่งกระทรวงกลาโหมที่ 1163/2555 เรื่องให้ปลดนายทหารสัญญาบัตรออกจากราชการ ลงวันที่ 8 พ.ย. 2555 ทั้งนี้ คดียังไม่ถึงที่สุด พล.อ.อ.สุกำพล ยังสามารถยื่นฎีกาได้อีก

+++สถานการณ์ภาคใต้ ร.ต.อ.ภาวิช กระจ่างศรี รอง สว.สอบสวน สภ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี รับแจ้งว่าเกิดเหตุระเบิดและมีเพลิงไหม้ในพื้นที่ ม.3 ต.ปิยามุมัง อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี มีผู้บาดเจ็บถูกนำส่ง รพ.ยะหริ่ง 5 คน ไปตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ โดยก่อนเกิดเหตุ มีคนร้ายขับรถเก๋งแล้วนำมาจอดที่บริเวณตู้น้ำมันหยอดเหรียญข้างร้านสหกรณ์รวมพลัง ซึ่งอยู่หน้าวัดปิยาราม โดยทำทีมาซื้อของแล้วมีเพื่อนมารับไป หลังจากนั้นได้เกิดระเบิดขึ้น แรงระเบิดทำให้เกิดเพลิงไฟลุกไหม้ร้านสหกรณ์ได้รับความเสียหาย

+++และเมื่อเวลา 18.00 น. ตร.สภ.หนองจิก รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายใช้ระเบิดชนิดขว้างปาเข้าไปในร้านค้าของประชาชน ตั้งอยู่ริมกำแพงวัดมุจลินทวาปีวิหาร แต่โชคดีระเบิดไม่ทำงาน เจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ตรวจสอบ และได้เก็บกู้สำเร็จพบว่าเป็นระเบิดเอ็ม 79

แฟ้มภาพ