รรท.ผู้ช่วยผบ.ตร. สั่งเพิ่มเจ้าหน้าที่หน้ารร.ในพื้นที่ที่มีปัญหาจราจร เลี่ยงรัชโยธิน เตรียมรื้อสะพาน

การประชุมคณะอนุกรรมการบูรณาการการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาจราจรในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลครั้งที่ 3 พลตำรวจโทวิทยา ประยงค์พันธ์ รักษาราชการแทนผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า สภาพการจราจรมีความคล่องตัวมากขึ้น เป็นผลมาจากโครงการ before and after ระหว่างวันที่ 19 ตุลาคม ถึง 2 พฤศจิกายน เป็นช่วงที่โรงเรียนเปิดเทอม พบว่า การจราจรช่วงเช้าคลี่คลายลงและไปได้เร็วขึ้นเฉลี่ย 48 นาที ช่วงเย็นคลี่คลายลงและไปได้เร็วขึ้นเฉลี่ย 1 ชั่วโมง 4 นาที  อีกทั้ง หลังเปิดภาคเรียนวันแรกจนถึงปัจจุบัน พบว่า การจราจรในพื้นที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 , 4 , 5 และ 6 ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด จึงมีมาตรการแก้ไขให้จัดกำลังตำรวจ 1 นาย บริเวณหน้าโรงเรียนและฝั่งตรงข้ามโรงเรียนอีก 2 นาย พร้อมประสานโรงเรียน และผู้ปกครองในการกำหนดระยะเวลารับ-ส่งบุตรหลาน ต่างช่วงเวลากัน และหลังจากปลายเดือนตุลาคมได้จัดการจราจรโดยรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ทำให้การจราจรโดยรอบคลี่คลายเร็วขึ้น 58 นาที นอกจากนี้ ในที่ประชุมก็มีการหารือเกี่ยวกับมาตรการที่ให้บุคคลทั่วไปสามารถถ่ายรูปบันทึกภาพผู้กระทำผิดเกี่ยวกับจราจรเพื่อนำไปสู่การจับกุมออกไปสั่ง และมีผลตอบแทนเป็นสินบนนำจับด้วย 

ส่วนกรณีที่จะปิดสะพานรัชโยธิน ในวันที่ 22-23 พฤศจิกายนนี้ ตั้งแต่ 10 .00-15.00น. เพื่อรื้อสะพานข้ามแยกรัชโยธิน และจะก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว จะขยายเวลาการปิดอีกในวันที่ 24-25 พฤศจิกายน เวลา 08.00-17.00 น. และหลังจากนั้นจะปิดทุกช่วงเวลาไปจนกว่าจะก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวจะเสร็จสิ้น ส่วนที่ให้เลี่ยงจราจรไปใช้ถนนตามซอยต่างๆ เชื่อว่าไม่น่าเพียงพอต่อการใช้ถนนของประชาชน แต่ตำรวจได้วางแผนรับมือสภาพการจราจรบริเวณดังกล่าวไว้ 3 แผน คือ การปรับสัญญานไฟจราจรบริเวณสี่แยกรัชโยธิน ให้เหมาะสมกับปริมาณรถ ,ห้ามไม่ให้รถเลี้ยวขวาบริเวณสี่แยกรัชโยธิน ,และอาจจะจัดรูปแบบการเดินรถทางเดียว ขณะนี้เจ้าหน้าที่ใช้รูปแบบแรก คือ การปรับแผนสัญญาณไฟจราจร จึงอยากฝากประชาสัมพันธ์ประชาชนหากไม่มีความจำเป็นที่ต้องใช้เส้นทางดังกล่าว ควรเลี่ยงใช้เส้นทางอื่น

ผู้สื่อข่าว:ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ