ปธ.กรธ. ยืนยัน หากกก.องค์กรอิสระขาดคุณสมบัติต้องพ้นจากตำแหน่ง

ความคืบหน้าการร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) ยืนยันว่า กรธ.ได้เพิ่มเนื้อหาในร่างพ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวหลายเรื่อง เช่น ผู้ชี้เบาะแสการทุจริตการเลือกตั้ง คล้ายๆกับข้อมูลของสำนักข่าวกรองที่เป็นข้อมูลมาจากประชาชน หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ไม่เปิดเผยตัว รัฐบาลจะใช้ข้อมูลเหล่านี้ และกกต. ก็จะใช้เป็นเบาะแสเพื่อหาข้อมูลในชั้นศาล ส่วนค่าตอบแทนของผู้ชี้เบาะแส เป็นเรื่องที่ กกต.จะออกระเบียบเอง  ทั้งนี้ ผู้ชี้เบาะแส ต้องมีอันตรายหากกลั่นแกล้งกัน  จึงได้เขียนไว้ชัดว่าหากกลั่นแกล้งกัน จะมีโทษสูงมากทั้งพรรคและตัวบุคคล และในส่วนของกกต.นอกจากทำงานเป็นคณะแล้ว ยังมีอำนาจในตัวเองเสมือนผู้พิพากษา เมื่อเวลากกต.เดินทางไปต่างจังหวัดแล้วพบเห็นอะไร จะได้สามารถสั่งการได้ทันเวลา

ส่วนการเปิดการสัมมนาการรับฟังความคิดเห็นร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยกกต. และร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) นายมีชัย เปิดเผยว่า ร่างรัฐธรรมนูญที่ผ่านประชามติได้กำหนดคุณสมบัติของกกต.ไว้โดยละเอียดครบถ้วนสมบูรณ์ การที่กรธ.ยกร่างกฎหมายประกอบมา ไม่ได้ปรับแก้อะไร รวมถึงคุณสมบัติต้องห้ามของกกต.ด้วย เพียงแต่อำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่อ่านกฎหมายนี้แล้วไม่ต้องกลับไปพลิกดูรัฐธรรมนูญอีกประธานกรธ. กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่ได้กลั่นแกล้งใคร เพราะไม่มีเหตุผลที่จะทำเช่นนั้น

นายมีชัย ยืนยันถึงการกำหนดคุณสมบัติกรรมการองค์กรอิสระที่เพิ่มมากขึ้น และการพ้นจากตำแหน่งหากไม่ตรงตามคุณสมบัติก็ต้องพ้นสภาพเหมือนกันทุกองค์กร ไม่ได้มีการเลือกปฏิบัติ โดยมีเจตนาต้องการยกระดับคุณสมบัติให้มีความเหมาะสมมากขึ้น และการกำหนดในกฎหมายลูกต้องเป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้

แฟ้มภาพ