รบ.จัดระบบขนส่งมวลชนรองรับ12-13พ.ย. ย้ำระบบจองคิวออนไลน์ ต้องเท่าเทียมกับคนที่มาต่อแถวรอ

การเตรียมความพร้อมเพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน ในช่วงวันที่ 12-14 พ.ย. บริเวณท้องสนามหลวง พระบรมมหาราชวัง และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ที่คาดว่าจะมีประชาชนเดินทางมาเป็นจำนวนมาก นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จะมีการปิดการจราจรใน 27 เส้นทางเดิม ที่เคยปิดเมื่อ วันที่ 22 ต.ค. โดยปิดตั้งแต่เวลา 07.00 - 20.00 น. ซึ่งในช่วงเย็นอาจมีการเปิดในบางเส้นทาง เพื่อให้การจราจรมีความคล่องตัว ส่วนผู้ปกครองที่จะเดินทางมาส่งบัณฑิตที่จะเข้ารับพระราชทานปริญญา ในวันที่ 12-13 พ.ย. ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แนะนำให้ใช้เส้นทางถนนสามเสน มายังบางลำภู เข้าถนนเจ้าฟ้า และวนออกบริเวณถนนพระอาทิตย์

ด้านการสัญจรทางน้ำเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานงานกับ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ในการรองรับจำนวนประชาชนในแต่ละท่าเรือ ที่คาดว่าจะมีจำนวนมาก ทั้งนี้ได้แนะนำว่าในวันเสาร์และอาทิตย์นี้ประชาชนที่มีความประสงค์จะเดินทางมาสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และ มางานพระราชทานปริญญาบัตร ให้ใช้รถขนส่งมวลชนที่เจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมไว้ให้ จะเป็นทางที่สะดวกที่สุด ทั้งนี้ ขสมก.ได้ปรับการให้บริการรถประจำทางเฉพาะเส้นทางที่มาถึงสนามหลวง ด้านประตูบริเวณท่าราชวรดิษฐ์  เท่านั้น โดยจะขยายเวลาการให้บริการรถสาธารณะไปจนถึงเวลา 23.00 น. เพื่อป้องกันไม่ให้มีประชาชนตกค้าง 

ส่วนกรณีการเปิดให้จองคิว เข้าถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 แบบออนไลน์ ขณะนี้ได้มีการพูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบ้างแล้ว โดยสิ่งสำคัญที่เน้นย้ำ คือเรื่องของระบบความปลอดภัย ซึ่งในสัปดาห์หน้า จะมีการทดลองใช้ และคาดว่าจะสามารถใช้ได้จริงในวันที่ 1 ธ.ค. โดยยืนยันว่า ระบบการจองคิวออนไลน์เป็นระบบเสริมเท่านั้น ระบบหลักยังคงเป็นการที่ประชาชนมาต่อแถวด้วยตัวเอง ทั้งนี้จะต้องมีการพิจารณาถึงสัดส่วนจำนวนของผู้จองออนไลน์กับผู้มาต่อแถวอีกครั้ง รวมถึงจะมีการกำหนดช่วงเวลาในการจองเพื่อถวายสักการะพระบรมศพ และเมื่อช่วงเวลาที่กำหนดมีการจองเต็มแล้ว ก็จะไม่รับจองเพิ่มได้อีก รวมทั้งจะกำหนดวันให้สามารถจองเข้าถวายสักการะพระบรมศพได้ในวันธรรมดาเท่านั้น อย่างไรก็ตามผู้ที่จองคิวในระบบออนไลน์ก็จะต้องมาต่อแถว เพื่อรอเข้าถวายสักการะตามช่วงเวลาที่จองเช่นเดียวกับผู้ที่เดินทางมาด้วยตัวเอง ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทั้งสองระบบ

ส่วนการดำเนินงานในด้านอื่นๆ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ได้รับรายงานจากทุกฝ่ายว่าการดำเนินงานเป็นไปตามแผนที่ได้วางไว้ซึ่งในเรื่องของการปรับพื้นที่กรุงเทพฯก็มีความคืบหน้า โดยได้มีการนำเต็นท์มาตั้งบริเวณทิศเหนือ บ้างแล้ว ซึ่งเมื่อการตั้งเต็นท์เสร็จเรียบร้อยก็จะย้ายจุดบริการอาหารและการแพทย์มารวมกันอยู่บริเวณฝั่งทิศเหนือทั้งหมด โดยคาดว่าภายในเดือนนี้ทุกอย่างจะสามารถให้บริการได้อย่างเต็มรูปแบบ ในทางทิศเหนือ

ส่วนที่มีคนเร่ร่อนในบางกลุ่ม มาสมัครเป็นจิตอาสา นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า ทางกลุ่มจิตอาสา ได้ปรับระบบการสมัครเป็นจิตอาสาใหม่ โดยการใช้บัตรที่มีสีแตกต่างกันในแต่ละวัน ส่วนคนเร่ร่อนในพื้นที่ท้องสนามหลวง เจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจสอบ และ ส่งกลับภูมิลำเนาไปบ้างแล้ว และในส่วนที่ไม่มีครอบครัว ก็จะส่งไปบ้านมิตรไมตรีต่อไป

ผู้สื่อข่าว: เกตุกนก ครองคุ้ม