อังค์ถัด หรือการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา ออกรายงานการลงทุนของโลกในปีนี้ โดยพบว่า เอเชียเป็นภูมิภาคที่มีกระแสเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ หรือ FDI ไหลเข้ามากที่สุดติดคือ ร้อยละ 30 ของ FDI ทั้งหมด โดยเงินลงทุนที่ไหลเข้าสู่ประเทศกำลังพัฒนาในเอเชีย ไม่รวมเอเชียตะวันตก มีมูลค่าประมาณ 3 แสน 8 หมื่น 2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2556 ซึ่งมากกว่าปี 2555 อยู่ร้อยละ 4
ทั้งนี้ แม้ว่าจีนจะมีเม็ดเงินไหลเข้าเพื่อการลงทุนสูงมากเป็นอันดับ 2 ของโลก คือรองจากสหรัฐอเมริกา แต่ก็มีเม็ดเงินที่ไหลออกเพื่อการลงทุนในต่างประเทศสูงมากเช่นกัน เพราะบริษัทสัญชาติจีนส่วนใหญ่มีการทำข้อตกลงเชิงธุรกิจ ทั้งการเข้าซื้อกิจการ ควบรวมกิจการ และการลงทุนร่วมกันในหลายประเทศ
สำหรับสิงคโปร์ เป็นประเทศที่มีเงินลงทุนไหลเข้ามากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากมีการทำข้อตกลงเชิงธุรกิจเกิดขึ้นมากในปีที่ผ่านมา โดยทำสถิติใหม่ที่ 6 หมื่น 4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่วนอินโดนีเซียมีแนวโน้มคงที่ตลอด 3 ปีที่ผ่านมาคือประมาณ 1 หมื่น 9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่วนไทย มีเงินไหลเข้าเพิ่มขึ้นเป็น 1 หมื่น 3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่มีหลายโครงการที่ถูกระงับไว้เนื่องจากความไม่มั่นคงทางการเมือง
อังค์ถัดระบุว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยังคงแข็งแกร่งและมาตรการการเปิดเสรีใหม่ๆ อาทิ การทดลองเขตการค้าเสรีของนครเซี่ยงไฮ้ ทำให้เอเชียตะวันออกมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี แต่ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในด้านของภูมิศาสตร์การเมืองในเอเชีย กลายเป็นปัจจัยสำคัญต่อความไม่แน่นอน และกำหนดทิศทางการลงทุนในอนาคต
...