สื่ออังกฤษวิเคราะห์โดนัลด์ ทรัมป์เป็นผู้นำสหรัฐก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงต่อโลกใน 5 ด้าน

บีบีซีเสนอบทความวิเคราะห์ว่า การที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯอาจจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านสัมพันธ์กับทั่วโลกใน 5 เรื่องสำคัญๆคือ 1)การค้าเสรี หากนายทรัมป์ดำเนินไปตามนโยบายที่เขาประกาศในช่วงรณรงค์หาเสียง จะถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สุดในเรื่องการติดต่อสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างสหรัฐฯกับประเทศอื่นๆทั่วโลกในระยะหลายสิบปีข้างหน้า ที่ผ่านมานายทรัมป์เคยขู่จะยกเลิกข้อตกลงการค้าเสรีหลายฉบับที่ใช้อยู่ในขณะนี้ รวมถึงความตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือระหว่างสหรัฐฯ แคนาดาและเม็กซิโก ระบุว่าเป็นเหตุให้สูญเสียตำแหน่งงานในสหรัฐฯ นายทรัมป์เคยเสนอว่ามีนโยบายเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ โดยเก็บภาษีร้อยละ 45 สำหรับสินค้านำเข้าจากประเทศจีน และภาษีร้อยละ 35 สำหรับสินค้านำเข้าจากเม็กซิโก เพื่อป้องปรามไม่ให้บริษัทเอกชนย้ายโรงงานผลิตไปตั้งในเม็กซิโก

2)เรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นายทรัมป์กล่าวว่าเขาจะยกเลิกการทำข้อตกลงในอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ประเทศต่างๆกว่า 195 ประเทศลงนามในกรุงปารีส ฝรั่งเศส เมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน เขากล่าวว่าเขาจะยกเลิกการจ่ายเงินอุดหนุนทั้งหมดของสหรัฐฯในโครงการเกี่ยวกับภาวะโลกร้อนของสหประชาชาติ ขณะเดียวกันนายทรัมป์เสนอให้มีการขุดเจาะเชื้อเพลิงฟอสซิลให้มากขึ้น 3)การปิดชายแดน เรื่องนี้เขาเปลี่ยนจุดยืนเรื่องนี้มาหลายครั้ง จึงยากที่จะดำเนินงานในเรื่องนี้อย่างจริงจัง แต่ในช่วงเริ่มการรณรงค์หาเสียง เขาเสนอจะสร้างกำแพงกั้นพรมแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโก และเนรเทศผู้อพยพ 11 ล้านคนไม่มีเอกสารที่ทางราชการออกให้กลับประเทศ นอกจากนี้เขาประกาศว่าจะห้ามชาวมุสลิมเข้าประเทศฯ แต่ต่อมาเขาพูดว่าเป็นเพียงข้อเสนอแนะ แต่จะไม่กำหนดเป็นนโยบายของรัฐบาล

4)เรื่ององค์การสนธิสัญญาปัองกันแอตแลนติกเหนือ(นาโต) นายทรัมป์พูดว่าองค์กรนาโตไม่สอดคล้องกับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลง อีกทั้งสมาชิกนาโตที่ได้รับประโยชน์จากการที่สหรัฐฯอุดหนุนเงินจำนวนมากให้กับนาโตก็ไม่รู้สึกขอบคุณสหรัฐฯระบุว่าสหรัฐฯไม่อาจจะปกป้องประเทศในยุโรปและเอเชีย โดยไม่มีค่าทดแทนให้อย่างเหมาะสม บ่งชี้ว่าเขาจะถอนหน่วยทหารสหรัฐฯออกจากประเทศพันธมิตร ถ้าหากพวกเขาไม่ยอมจ่ายเงินเพิ่มให้กับสหรัฐฯ 5)รัสเซีย นายทรัมป์กล่าวว่าเขาเชื่อว่าเขาสามารถลดความตึงเครียดกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียและชื่นชมผู้นำรัสเซียว่าเป็นผู้นำที่เข้มแข็ง ซึ่งเขาต้องการจะสร้างสัมพันธ์ทีดีด้วย และร่วมมือกันปราบปรามกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส) เชื่อว่าเขาจะได้รับการยอมรับจากผู้นำรัสเซียมากกว่านางฮิลลารี คลินตันหรือแม้กระทั่งผู้นำคนปัจจุบันคือ ประธานาธิบดีบารัก โอบามา/18.55 น.