จีน ปรับตำแหน่งรมว.คลัง หลังตัวเลขหนี้โดยรวมพุ่งสูงถึง250%

ที่ประชุมคณะกรรมการสภาประชาชาชนแห่งชาติจีน มีคำสั่งแต่งตั้งนายเสี้ยว เจี๋ย วัย 59 ปี อดีตหัวหน้าสำนักงานบริหารภาษีแห่งชาติ และ รมช.กระทรวงการคลัง ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการสภาแห่งรัฐ ขึ้นดำรงตำแหน่ง รมว.กระทรวงการคลัง แทนที่นายหลัว จี้เหว่ย ซึ่งดำรงตำแหน่งมาตั้งแต่เดือน มี.ค. 2556 โดยไม่มีการชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลงจากตำแหน่งของนายหลัว การปรับเปลี่ยนมีขึ้นขณะที่หนี้โดยรวมของจีนพุ่งสูงถึงร้อยละ 250 ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) จากเดิมที่อยู่ที่อัตราร้อยละ 150 ของจีดีพีเมื่อช่วงปลายปี 2549 ซึ่งการเพิ่มขึ้นดังกล่าวหากเกิดในประเทศอื่นอาจส่งผลให้เกิดการชะลอตัวทางเศรษฐกิจอย่างฉับพลันได้ ขณะที่ รัฐบาลท้องถิ่นก็กำลังเผชิญกับการปรับโครงสร้างหนี้มูลค่าหลายล้านล้านหยวน รวมถึงปัญหาการลดลงของรายได้ และการเพิ่มขึ้นของการขาดดุลนายหลัว ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นคณะกรรมการบริหารของธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเอเชีย (เอไอไอบี) นับเป็นปากเสียงสำคัญในเรื่องเศรษฐกิจของจีน ควบคู่ไปกับนายโจว เสี่ยวชวน ประธานธนาคารกลางจีน โดยนายหลัวได้กล่าวบนเวทีที่ประชุมกลุ่มประเทศเศรษฐกิจชั้นนำ จี20 เมื่อเดือนที่แล้ว ประณามแนวคิดการเมืองแบบประชานิยม ว่าเป็นภัยคุกคามต่อเศรษฐกิจโลกทั้งนี้

นอกจากนี้ ยังมีการแต่งตั้งเฉิน เหวินชิง วัย 56 ปี ขึ้นดำรงตำแหน่งหัวหน้าสำนักงานกิจการพลเรือน และ รมว.กระทรวงความมั่นคงแห่งชาติ แทนที่นายเกิ่ง หุยชาง โดยก่อนหน้านี้นายเฉินเคยดำรงตำแหน่งรองประธานการคณะกรรมการตรวจสอบวินัยของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ (ซีซีดีไอ)  

แฟ้มภาพ