รฟม. ฝึกซ้อมแผนบริหารความเสี่ยงและแผนเผชิญเหตุ คลี่คลายเหตุการณ์ภายใน30นาที

จากมติคณะกรรมการจัดทำแผนบริหารความเสี่ยงและแผนเผชิญเหตุของระบบขนส่งสาธารณะในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในวันนี้ นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) พร้อมด้วย คณะผู้บริหาร รฟม. และบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) ร่วมการฝึกซ้อมเหตุการณ์เสมือนจริงครั้งที่1 กรณีที่รถไฟฟ้าติดค้างในอุโมงค์ ไม่สามารถเคลื่อนที่เนื่องจากระบบเบรกขัดข้อง เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหากรณีเกิดเหตุขัดข้องทางเทคนิคของระบบขนส่งสาธารณะทางรางให้สามารถกลับมาอยู่ในภาวะปกติโดยเร็วที่สุด โดยมีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการฝึกซ้อม ซึ่งจัดเป็นเหตุการณ์เสี่ยงในระดับที่2 (เหตุการณ์ขั้นรุนแรง)จาก 3 ระดับตามคู่มือแผนเผชิญเหตุ โดยสมมติเหตุการณ์เกิดขึ้นระหว่างสถานีห้วยขวางกับสถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยฝั่งขาล่อง เริ่มจากเจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมปฏิบัติการเดินรถรายงานเหตุ ติดตามประเมินสถานการณ์และปฏิบัติการแก้ไขเหตุการณ์เสมือนจริง หรือ เมื่อศูนย์ควบคุมปฏิบัติการเดินรถ  รับทราบเหตุและประเมินสถานการณ์แล้ว มีคำสั่งอพยพผู้โดยสารออกจากรถไฟฟ้าขบวนที่เสีย ไปที่รถไฟฟ้าขบวนช่วยเหลือที่ตามหลังมา และต่อพ่วง โดยการเชื่อมประตูหน้าของรถไฟฟ้าทั้งสองขบวนเข้าด้วยกัน จากนั้นรถไฟฟ้าขบวนช่วยเหลือจะดันขบวนที่เสียไปยังสถานีถัดไป เพื่ออพยพผู้โดยสารจากขบวนที่เสียมายังขบวนช่วยเหลือ และจะดันรถไฟฟ้าขบวนที่เสียกลับศูนย์ซ่อมบำรุงต่อไป เมื่อเหตุการณ์เข้าสู่สถานการณ์ปกติแล้ว จะมีการรายงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย จส.100 กสทช. และกรมประชาสัมพันธ์ เพื่อประสานข้อมูลให้ประชาชนรับทราบ และรายงานต่อศูนย์ปลอดภัยคมนาคม (ศปภ.คค. ) เพื่อรายงานผู้บริหารและหน่วยงานที่เกี่ยว เช่น กรมการขนส่งทางบก องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ และกองบัญชาการตำรวจจราจร 

นายอาคม กล่าวว่า การฝึกซ้อมเหตุการณ์ในวันนี้ เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีในการประสานงานและแก้ไขระบบขัดข้อง ถือว่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อย  ซึ่งได้เสนอไปด้วยว่า เมื่อเกิดเหตุขึ้นหากผู้โดยสารมีความประสงค์จะเปลี่ยนไปใช้ระบบทางอื่น ก็ควรมีการประสานงานจัดส่งให้ตามที่ผู้โดยสารต้องการเช่นกัน

...

ผสข.ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ