ผบ.ทบ.ขอให้ปรับการทำงานรองรับประชาชนถวายสักการะ/รองนายกฯงดให้ความเห็นทางการเมือง

สรุปข่าว 19.35 น.

+++พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เดินทางมาตรวจเยี่ยมและรับทราบปัญหาการดำเนินงานของ กอร.รส. พร้อมกล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ความหนาแน่นของประชาชนลดน้อยลง อยากให้เจ้าหน้าที่ปรับตามความเหมาะสม เพราะงานครั้งนี้สำคัญ ต้องเก็บข้อมูลทุกอย่าง ซึ่งภาพรวมมีความเรียบร้อย ส่วนการแก้ไขปัญหาจุดอ่อนต้องดำเนินการต่อเนื่อง โดยให้ประชาชนช่วยสังเกตคนที่มีอาการทางจิต เพราะบางคนมีจุดประสงค์หลายอย่าง ทั้งต้องการอาหาร การเวียนเทียนรับสิ่งของ ขอให้บริหารจัดการในทางที่ดี เพราะถือเป็นเรื่องความอดอยาก ขอให้มีเมตตาธรรม ส่วนการจัดโรงทานเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวถือว่าเหมาะสม นอกจากนี้ ขอให้ทำความเข้าใจกับจิตอาสาด้วย เนื่องจากการแบ่งสิ่งของไปให้คนเร่ร่อนอาจทำให้ของบริจาคลดจำนวนลงก็ต้องทำความเข้าใจ หากเราทำได้ดีก็ยืดระยะยาวได้ และทุกคนก็จะมีความสุข

+++การแก้ไขปัญหาราคาข้าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวภายหลังประชุมติดตามการทำงานของกระทรวงคมนาคมว่า ขอให้ประชาชนติดตามฟังรายละเอียดเกี่ยวกับการแก้ปัญหาราคาข้าวในรายการ ศาสตร์พระราชาฯ ในช่วงค่ำวันนี้  การแก้ปัญหาไม่มีการบังคับใคร  ไม่มีการทำลายวงจรข้าว จึงต้องสร้างความเข้าใจและให้เกิดความไว้วางใจระหว่างภาครัฐและเอกชน ส่วนของโรงสี ก็ต้องขอโทษ ไม่เคยว่าโรงสีไม่ดีและรู้สึกเห็นใจเพราะโรงสีก็มีเหตุผลของตัวเอง  ขออย่าขยายความให้เกิดปัญหา  หากมีปัญหาเรื่องใดก็ขอให้แก้ไขปัญหา และพูดคุยกัน โดยนายกสมาคมโรงสีไม่จำเป็นต้องลาออก เพราะการแต่งตั้งใหม่ จะ ทำให้ติดขัดในการทำงาน ส่วนการที่เกษตรกร ออกมาขายข้าวเอง ผ่านช่องทางต่างๆ เช่นสื่อโซเชียลมีเดียนั้น  นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดี เพราะขึ้นอยู่กับความพอใจของผู้ซื้อและผู้ขาย ส่วนกรณีที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ มีมติไม่ผ่านร่างพ.ร.บ. การพัฒนาดิจิตัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ว่า สนช.เห็นว่าบางส่วนมีข้อจำกัดมากเกินไป ซึ่งไม่อยากให้บอกว่าเป็นการเรื่องคว่ำหรือไม่คว่ำร่าง เพราะการนำเสนอของรัฐบาลก็ยังเป็นไปตามหลักการและเหตุผลเดิม เพียงแต่เมื่อไปถึงชั้นกรรมาธิการก็มีการปรับแก้เพิ่มเติมบางส่วนเท่านั้น

+++น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า สำรวจราคาสินค้าอาหารสด รวมถึงการจำหน่ายเสื้อดำและข้าวสารที่ตลาดสดมีนบุรี พบว่าราคาอาหารส่วนใหญ่ยังคงทรงตัว  ขณะที่ราคาข้าวสารขายปลีกยังคงปกติไม่ได้ลดลง และผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังคงสนใจซื้อข้าวหอมมะลิไปรับประทาน โดยผู้บริโภคจะเลือกตราสินค้าที่นิยมซื้อประจำ ราคาข้าวหอมมะลิปทุมกิโลกรัมละ 32 บาท ข้าวหอมสุรินทร์กิโลกรัมละ 38 บาท ข้าวหอมมะลิใหม่กิโลกรัมละ 40 บาท ส่วนข้าวขาวเจ้ากิโลกรัมละ 28 – 32 บาท นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังเร่งทำการตลาดทั้งในและต่างประเทศ  โดยวันที่ 13-16 พฤศจิกายนได้เชิญคณะผู้แทนทางการค้ากว่า 170 ประเทศทั่วโลกมาเจรจาจับคู่ธุรกิจซื้อขายข้าว รวมทั้งยังมีแผนเดินทางไปโรดโชว์ในกลุ่มประเทศแอฟริกาและตะวันออกกลาง เพื่อให้เกิดการซื้อขายข้าวมากขึ้น ทั้งแบบรัฐต่อรัฐและเอกชนกับเอกชน ขณะเดียวกันกรมพัฒนาธุรกิจการค้าพยายามส่งเสริมให้เกษตรกรและลูกหลานชาวนาเข้ามาทำการค้า ขายข้าว และสินค้าเกษตรผ่านออนไลน์  เพื่อเพิ่มช่องทางการขายและตลาดในการทำธุรกิจ ทำให้ราคาข้าวดีขึ้น การขายข้าวผ่านออนไลน์ไม่ผิดกฎหมายและสามารถทำได้  แต่เกษตรกรจะต้องปรับตัวเพื่อให้สามารถทำธุรกิจผ่านระบบออนไลน์ด้วย ส่วนราคาเสื้อดำขณะนี้เริ่มปรับตัวลดลงต่อเนื่องและมีสินค้าเข้ามาจำหน่ายในตลาดมากขึ้นเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค โดยขณะนี้ราคาเสื้อคอกลมเฉลี่ยตั้งแต่ 30 – 180 บาท เสื้อโปโลสีดำราคาเฉลี่ย 150 – 350 บาท เนื่องจากภาครัฐและหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาช่วยเหลือเชื่อมโยงวัตถุดิบผ้า เพื่อให้มีการผลิตเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคและไม่ให้เสื้อดำขาดตลาด

+++พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า หลังจากนี้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการจะงดให้สัมภาษณ์ในประเด็นที่เกี่ยวข้องทางการเมือง เพราะเกรงว่าจะเพิ่มความขัดแย้ง หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักกรณีที่บอกให้ชาวนาไปขายปุ๋ยแทนข้าว และกรณีล่าสุดที่สื่อมวลชนเขียนในเชิงพล.อ.ประวิตรท้าทายน.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้รับซื้อข้าวทั้งประเทศ โดยเพียงแต่ต้องการเปรียบเทียบให้เห็นว่า รัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) รับซื้อข้าวจากชาวนาทั่วประเทศ ไม่ได้รับซื้อแค่จังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง

+++หลังที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)ถอดถอน 2 อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) กล่าวว่า ผลที่เกิดขึ้นจากการถอดถอน จะมีผลตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่กำหนดไว้ว่า เมื่อถูกถอดถอนแล้วจะถูกตัดสิทธิ์เลือกตั้งเป็นเวลา 5 ปี แต่ตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้นไม่มีเรื่องของการถอดถอนอีกแล้ว ดังนั้นผลแห่งการถอดถอนก็จะไม่มีผลอะไรในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่ถ้าถูกตัดสิทธิ์เลือกตั้ง ผลแห่งการถูกตัดสิทธิ์เลือกตั้งนั้นจะมีต่อรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้นคนที่ถูกตัดสิทธิ์เลือกตั้งจะไม่มีสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งในช่วงระยะเวลาที่ถูกตัดสิทธิ์ จะเป็นรัฐมนตรีไม่ได้ สำหรับเรื่องคุณสมบัติของกรรมการบริหารพรรคนั้น ร่างรัฐธรรมนูญไม่ได้พูดถึงเรื่องการถูกถอดถอนไว้ เพราะ กรธ.ใช้คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามอย่างเดียวกับการลงสมัครส.ส. ฉะนั้น ถ้าคนที่อยู่ระหว่างการถูกตัดสิทธิ์เลือกตั้งก็จะเป็นกรรมการบริหารพรรคไม่ได้เช่นกัน ส่วนความคืบหน้าในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองว่า ในเบื้องต้น กรธ.ได้พิจารณาเสร็จแล้ว เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งในส่วนของกกต.นั้น ทางกรธ.มีความคิดว่าในเรื่อง กกต.จังหวัด จะเปลี่ยนไม่ให้เป็นแบบถาวร คือให้มีได้ แต่ไม่ให้ไปประจำอยู่ที่จังหวัด แต่จะให้ไปเฉพาะเวลามีก่อนหรือหลังการเลือกตั้งก่อนนิดหน่อยเพื่อไม่ให้ถูกครอบงำ เพราะ กรธ.ตั้งใจให้เป็นหูเป็นตามากกว่าการเป็นคนตัดสินใจ ถ้าจะตัดสินว่าถูกหรือผิดนั้นจะต้องมาหากกต.

+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันนี้ มีความผันผวนตลอดทั้งวันและดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบ สอดคล้องกับทิศทางของตลาดต่างประเทศ เนื่องจากนักลงทุนกังวลผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯที่คะแนนผู้สมัครทั้งสองมีความสูสีกันมาก ประกอบกับสัญญาน้ำมันดิบเวสเท็กต์ซัส ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 68 เซนต์ ปิดที่ 44.46 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยสัญญาน้ำมันปรับตัวลงติดต่อกัน 5 วันทำการ ส่งผลให้ปิดตลาดที่ 1,485.70จุด ลดลง7.38จุด มูลค่าซื้อขาย50,836.97ล้านบาท

+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวร่วงลงในวันนี้ โดยนิกเกอิปิดต่ำกว่าระดับ 17,000 จุดเป็นครั้งแรกในรอบประมาณ 2 สัปดาห์ เนื่องจากความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐซึ่งจะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า ปิดร่วงลง 229.32 จุด ปิดที่ 16,905.36 จุด

+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ปรับตัวลง เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ขณะเดียวกันนักลงทุนยังจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนต.ค.ของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งจะบ่งชี้แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)ลดลง 40.89 จุด ที่ 22,642.62 จุด

+++ทำเนียบขาวสหรัฐแถลงเรียกร้องให้อังกฤษและสหภาพยุโรป(อียู) คงปฏิบัติต่อกันอย่างยืดหยุ่น ขณะที่ทั้งสองฝ่ายวางแนวทางสำหรับสหราชอาณาจักรออกจากการเป็นสมาชิกอียู ภายหลังจากศาลสูงอังกฤษมีแนวโน้มเลื่อนแผนการออกจากสมาชิกอียู รวมทั้งจะติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิดและประสานกับเจ้าหน้าที่ในอังกฤษและเบลเยียมเพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการเบร็กซิทจะไม่ส่งผลกระทบกับตลาดเงิน รวมทั้งย้ำว่าความสัมพันธ์พิเศษระหว่างสหรัฐกับอังกฤษจะคงอยู่ต่อไป

+++นายบินาลี เยลเดริม นายกรัฐมนตรีตุรกีว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 ราย บาดเจ็บอีกมากกว่า 100 คน จากเหตุระเบิดรุนแรงบริเวณด้านนอกอาคารสำนักงานตำรวจในเมืองดียาร์บากีร์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศตุรกี ซึ่งเป็นเมืองที่เป็นจุดศูนย์กลางของชนกลุ่มน้อยชาวเคิร์ด โดยเหตุระเบิดเกิดขึ้น ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมนายเซลาฮัตติน เดมีร์ทาส และนางฟีเกน ยุคเซคดาก 2 ผู้นำพรรคประชาธิปไตยประชาชนชาวเคิร์ด (เอชดีพี) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองใหญ่ที่สนับสนุนชาวเคิร์ดของตุรกี รวมถึงสมาชิกสภานิติบัญญัติของพรรคอีก 9 คน เป็นการยกระดับในความพยายามปราบปรามแกนนำชาวเคิร์ดที่รุนแรงมากขึ้นของทางการตุรกี นางเฟเดริกา โมเกรินี ผู้แทนระดับสูงด้านนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป (อียู) ทวีตข้อความแสดงความกังวลอย่างมากต่อการควบคุมตัวสมาชิกพรรคเอชดีพี 11 รายของทางการตุรกี พร้อมระบุว่า เตรียมเรียกประชุมทูตของชาติสมาชิกอียูในตุรกีในเร็วๆ นี้