นายกฯสมาคมโรงสีข้าวไทยพร้อมคณะกรรมการยุติบทบาทหลังตกเป็นจำเลยสังคม กดราคารับซื้อข้าวจากชาวนา

หลังจากมีกระแสข่าวว่าสมาคมโรงสีข้าวไทยร่วมกับฝ่ายการเมืองกดราคารับซื้อข้าวจากชาวนาเพื่อหวังผลการเมือง นายมานัส กิจประเสริฐ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย พร้อมคณะกรรมการสมาคมโรงสีข้าวไทยยืนยันว่า ผู้ประกอบการโรงสีไม่ได้เป็นผู้กดราคารับซื้อข้าวจากชาวนาและการรับซื้อข้าวสารของโรงสีไม่มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งในความเป็นจริงนั้นโรงสีข้าวไม่สามารถกำหนดราคาขายข้าวสารเองได้ เพราะเมื่อแปรสภาพจากข้าวเปลือกเป็นข้าวสาร ต้องขายข้าวผ่านพ่อค้าที่เป็นผู้ส่งออก ดังนั้นพ่อค้าผู้ส่งออกจะเป็นผู้กำหนดราคาซื้อ-ขายข้าวสาร เพื่อนำมาคำนวณกลับเป็นราคาข้าวเปลือก พร้อมยืนยันว่าการรับซื้อข้าวสารของโรงสีไม่มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง อาจเป็นเพราะก่อนหน้านี้ ทางคณะกรรมการของสมาคมได้ส่งข้อมูลชี้แจงเรื่องสถานการณ์ราคาข้าวตกต่ำไปให้กับทางรัฐบาลแล้ว แต่อาจเกิดความคาดเคลื่อนและความเข้าใจที่ไม่ตรงกันจึงทำให้นายกรัฐมนตรีเข้าใจผิดคิดว่า โรงสีร่วมกับฝ่ายการเมืองไม่รับซื้อข้าวและกดราคารับซื้อจากชาวนา

นอกจากนี้ นายมานัสกล่าวเพิ่มเติมว่าตลอดเวลาโรงสีข้าวจะดำเนินงานด้วยหลักการอย่างเคร่งครัด คือ การให้ความร่วมมือสนับสนุน นโยบายทุกรัฐบาล,ให้ความสำคัญกับชาวนาเป็นอันดับแรกและไม่ยุ่งเข้าไปเกี่ยวกับการเมือง ที่ผ่านมาผู้ประกอบการโรงสีได้รับความเดือดร้อน ก็ไปกู้ยืมเงินกับธนาคารพาณิชย์ มาใช้ในการรับซื้อข้าวจากชาวนา และโรงสีต้องจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ แต่เมื่อราคาข้าวตกต่ำ ธนาคารก็ตัดลดวงเงินกู้ เพื่อลดความเสี่ยง ขณะเดียวกันรัฐบาลก็มีมาตรการชดเชยช่วยเหลือดอกเบี้ยเงินกู้ให้โรงสีเพียงร้อยละ3 เท่านั้น ถือว่าน้อยมากเมื่อกับวงเงินมากกว่า 80,000 ล้านบาท ที่สมาชิกโรงสีทั่วประเทศได้รับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาในช่วงนี้กว่า 8 ล้านตัน  พร้อมทั้งยืนยันว่าที่ผ่านมาโรงสีไม่เคยหยุดรับซื้อข้าวจากชาวนาเพื่อกดราคา ต่างกับพืชเกษตรชนิดอื่นที่มีการหยุดรับซื้อ จากกระแสดังกล่าวที่สะท้อนภาพลักษณ์ของโรงสีในเชิงลบ นายมานัสในฐานะนายกสมาคมโรงสีข้าวไทยพร้อมคณะกรรมการทั้งหมดขอประกาศลาออกและยุติบทบาทในสมาคมโรงสีข้าวไทย เพราะไม่สามารถช่วยเหลือชาวนาและทำให้ราคาข้าวดีขึ้น ยืนยันว่าไม่ได้น้อยใจรัฐบาลหรือสังคม แต่ก็ได้ขอความร่วมมือกับสมาชิกสมาคมโรงสีข้าวไทย ให้รับซื้อข้าวจากชาวนาต่อไป

นายมานัส อยากขอความเป็นธรรมกับสังคมให้เข้าใจถึงสถานการณ์ของโรงสีข้าว ซึ่งขณะนี้ถูกมองไปในเชิงลบเป็นโจทก์ทำให้ชาวนาไม่สามารถขายข้าวได้ รวมถึงมีผู้ออกมาเกาะกระแสโจมตีโรงสี ซึ่งยืนยันว่าไม่เคยกดราคารับซื้อจากชาวนาและหากชาวนาต้องการขายข้าวเอง โรงสีก็พร้อมสนับสนุนและให้คำปรึกษาโดยสามารถแจ้งมายังสมาคมได้

ด้านนายวิชัย ศรีนวกุล อุปนายกสมาคมโรงสีข้าวไทย คาดว่า ขณะนี้ราคาข้าวหอมมะลิจะไม่ลดลงไปมากกว่านี้ เนื่องจากว่าตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน โรงสีเริ่มรับซื้อข้าวจากชาวนามากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ส่งออก  ได้ชะลอการรับซื้อจากโรงสี และมีการขายข้าวหอมมะลิในตลาดโลกในราคาที่ต่ำ โดยผู้ส่งออกอ้างว่าเป็นเพราะต้องแข่งขันกับข้าวจากประเทศคู่แข่ง ซึ่งหากนายกรัฐมนตรีเรียกบริษัทผู้ส่งออกรายใหญ่ 10-20 บริษัท มาพูดคุยก็จะได้ทราบข้อเท็จจริงมากขึ้น เพราะในการขายข้าวนั้นผู้ส่งออกจะเป็นผู้กำหนดราคาในต่างประเทศ  ส่วนการสต๊อกข้าวของโรงสีขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการโรงสีเอง หากโรงสีมั่นใจว่าสามารถระบายข้าวออกสู่ตลาดได้ก็จะบริหารจัดการข้าวในสต๊อกได้

ผู้สื่อข่าว:ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ