จนท.กรมการขนส่งทางบก ยังคงตรวจพบแท็กซี่ -รถตู้ฯทำผิดกฎหมายหลังลงตรวจที่สนามบินดอนเมือง

การลงพื้นที่ตรวจรถโดยสารสาธารณะ บริเวณประตูทางออกหมายเลข 7 อาคาร 1 ท่าอากาศยานดอนเมือง โดยเจ้าหน้าที่จากกรมการขนส่งทางบก 5 นาย ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากท่าอากาศยานดอนเมืองตำรวจท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ทหารจากกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์  นายวิวัฒน์ วงศ์ศิริ เจ้าพนักงานขนส่งชำนาญงาน เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ตรวจรถยนต์สาธารณะในวันนี้เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ด้านการใช้รถยนต์สาธารณะ รวมทั้งเพื่อให้เป็นไปตามแผนบูรณาการร่วม 4 ฝ่าย โดยการลงพื้นที่ตรวจในวันนี้เจ้าหน้าที่จะเน้นตรวจรถแท็กซี่เป็นหลัก เนื่องจากแท็กซี่เหล่านี้เป็นแท็กซี่ที่ไม่ได้จดทะเบียนไว้กับทางท่าอากาศยาน ซึ่งจะเข้ามา เพื่อส่งผู้โดยสารภายในสนามบิน โดย การตรวจของเจ้าหน้าที่ จะตรวจตั้งแต่ รถแท็กซี่ที่นำทะเบียนป้ายแดงมาใช้ซึ่งตามกำหนดจะต้องรอ ให้เปลี่ยนเป็นป้ายเหลืองก่อนจึงสามารถที่จะนำมาใช้รับผู้โดยสารได้ รวมถึงตรวจแท็กซี่หมดอายุแล้วไม่นำไปต่อทะเบียน รถแท็กซี่ที่ไม่มีการต่อภาษีรถ ไม่นำรถไปตรวจรอบมิเตอร์ตามกำหนด คิดราคาแบบเหมารวมโดยไม่กดมิเตอร์ แต่งกายไม่สุภาพเรียบร้อย ไม่มีใบอนุญาตขับรถประเภทรถยนต์สาธารณะ และมีการติดตั้งอุปกรณ์ส่วนควบที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งอาจมีการติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมหรืออุปกรณ์ภายในรถมีการชำรุดและไม่ได้ปรับปรุงซ่อมแซม

โดยสิ่งที่เจ้าหน้าที่จากกรมการขนส่งทางบก ให้ความสำคัญในการลงพื้นที่ตรวจรถแท็กซี่สาธารณะ ภายในท่าอากาศยายดอนเมือง คือเรื่องของรถแท็กซี่ที่ไม่จดทะเบียนอย่างถูกต้องและไม่นำรถไปเปลี่ยนเป็นส่วนบุคคลวิ่งให้บริการเนื่องจากเมื่อเกิดปัญหาหรือเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับผู้โดยสาร จะทำให้ยากต่อการตรวจสอบหรือติดตามรถมาดำเนินคดี

จากการลงพื้นที่ตั้งแต่เวลา 08.00-09.00  น. พบรถแท็กซี่กระทำผิดทั้งสิ้น 10 ราย ประกอบด้วย โดยออกใบคำสั่งผู้ตรวจการ 4 ราย ประกอบด้วย แท็กซี่ที่ไม่นำรถไปจดทะเบียน 1 ราย ไม่นำรถตรวจรอบมิเตอร์ตามกำหนด 3 ราย ส่วนเปรียบเทียบปรับมีทั้งสิ้น 6 ราย ประกอบด้วย แท็กซี่ไม่นำรถไปจดทะเบียน 3 ไม่แสดงใบอนุญาตขับขี่รถประเภทรถยนต์สาธารณะ 1 ราย ไม่ชำระภาษี 1 ราย และภาษีรถยนต์หมดอายุ 1 ราย

นอกจากนี้ ยังพบรถตู้โดยสารสาธารณะที่กระทำผิด 3 ราย ซึ่งนำรถออกมาวิ่งนอกเส้นทาง  โดยแวะส่งผู้โดยสารที่สนามบิน ซึ่งตามกฎระเบียบแล้ว จะไม่สามารถแวะส่งระหว่างทางได้ จะต้องจากต้นทางไปปลายทางเท่านั้น ซึ่งได้มีการเปรียบเทียบปรับ ทั้ง 3 ราย ทั้งนี้ หากรถตู้โดยสารสาธารณะ ที่มีความจำเป็นจะต้องนำรถออกมาวิ่งนอกเส้นทาง จะต้องมีการทำหนังสือขออนุญาตขอออกนอกเส้นทาง ที่บริษัทขนส่งจำกัด หรือ บขส. จากนั้น จะต้องมาขออนุญาตที่กรมการขนส่งทางบกด้วย โดยผู้ที่จะขออนุญาตจะต้องเป็นเจ้าของรถร่วมบริการเท่านั้น