ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพตั้งแต่เช้าตรู่/ประชุมครม.

การบำเพ็ญพระราชกุศลพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร และ การเข้าถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในวันนี้ ยังคงมีประชาชนจากทั่วทั้งประเทศเดินทางมาต่อแถวเพื่อเข้าถวายสักการะพระบรมศพตั้งแต่เช้าตรู่

โดยในเวลา 08.00 น. สำนักพระราชวังจะให้เข้าสักการะพระบรมศพที่ประตูมณีนพรัตน์ เนื่องจากประตูวิเศษไชยศรีจะเปิดให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้เข้าชมวัดพระแก้วและสักการะพระแก้วมรกต แต่ไม่อนุญาตให้เข้าสักการะพระบรมศพแต่อย่างใด และจะกลับมาใช้ประตูวิเศษไชยศรีอีกครั้งในเวลา 16.30-21.00 น.

ในวันนี้มีการประชุมคณะรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งมีวาระที่เกี่ยวข้องกับที่เมื่อวานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พล.อ. ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม โดยข้าวหอมมะลิมีปัญหาเรื่องการปรับโครงสร้างการเกษตรที่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ครบวงจร และมีการเคลื่อนไหวทางการเมือง ระหว่างนักการเมืองในพื้นที่ กับโรงสีบางแห่งที่กดราคารับซื้อ เพื่อหวังให้เกิดการต่อต้านหรือขัดแย้งกับรัฐบาล จึงต้องสร้างความเข้าใจ

ต่อมา พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า รัฐบาลไม่สามารถนำเงินไปให้ 15,000 บาทเหมือนที่ผ่านมา เพราะต้องดูแลคนทั้งประเทศ และเกษตรกรทุกประเภท และขอให้น้อมนำกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เรื่องการปลูกพืชผสมผสาน

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่าที่ประชุม นบข.ว่า  มีมติเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวหอมมะลิที่ประสบปัญหาราคาตกต่ำ โดยมอบให้ ธ.ก.ส. ช่วยเหลือเกษตรกรที่ปลูกข้าวหอมมะลิเป็นค่าปรับปรุงคุณภาพข้าวและค่าใช้จ่ายเก็บเกี่ยวไร่ละ 500 บาท ไม่เกินรายละ 10 ไร่ หรือคิดเป็นการช่วยเหลือ 1,295 บาทต่อตัน โดยใช้งบประมาณเพิ่มเติม 8,600 ล้านบาท ให้ ธ.ก.ส.สำรองจ่ายก่อนแล้วรัฐบาลชดเชยเงินงบประมาณคืนในภายหลัง โดยจะเสนอ ครม.พิจารณาเห็นชอบในวันนี้

ส่วนหลักเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อให้เกษตรกรเก็บข้าวไว้ในยุ้งฉางที่ราคาร้อยละ 90 ของราคาตลาดปัจจุบันที่ราคาตันละ 9,700 บาท เกษตรกรจะได้รับเงินจาก ธ.ก.ส. ตันละ 8,730 บาท โดยเกษตรกรที่เก็บข้าวไว้ในยุ้งฉางจะได้ค่าเก็บรักษาข้าวตันละ 1,295 บาท ซึ่งคิดจากเงินช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวไร่ละ 500 บาทรายละไม่เกิน 10 ไร่ และค่าเก็บข้าวในยุ้งฉาง 1,500 บาทต่อตัน โดยจะจ่ายให้ทันที 1,000 บาท และอีก 500 บาทจะจ่ายเมื่อไถ่ถอน รวมแล้วเกษตรกรจะได้รับเงินช่วยเหลือตันละ 11,525 บาท นอกจากนั้นยังมีเงินสนับสนุนด้านต้นทุนการผลิตที่เคยให้ ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ จำนวน 2,591 บาท รวมเป็นเงินตันละ 14,116 บาท

สำหรับเกษตรกรที่ไม่มียุ้งฉางเก็บข้าว จะได้รับการช่วยเหลือรวมค่าเก็บรักษาข้าว 1,295 บาทต่อตัน รวมเป็นการช่วยเหลือตันละ 10,995 บาท โดยรัฐบาลมีเป้าหมายชะลอการขายข้าวเปลือกหอมมะลิออกจากตลาดปริมาณ 2 ล้านตัน ซึ่งมาตรการนี้มีผลใช้ทันที ส่วนมาตรการช่วยเหลือข้าวชนิดอื่นๆ จะพิจารณาเมื่อผลผลิตออกสู่ตลาดอีกครั้ง และในวันที่ 13-15 พฤศจิกายนนี้ กระทรวงพาณิชย์จะหารือกับผู้ประกอบการที่นำเข้าข้าวจากไทย 15 ประเทศ

นายมนัส กิจประเสริฐ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวว่า ปัญหาข้าวราคาตกต่ำขณะนี้เป็นเพราะข้าวสารราคาตก เนื่องจากผู้ซื้อ ผู้ส่งออกแจ้งราคารับซื้อข้าวสารในเดือนธันวาคมเหลือ 15,000 บาทต่อตัน จากปัจจุบันราคาอยู่ที่ 20,000-22,000 บาทต่อตัน ทำให้โรงสีต้องรับซื้อในราคาที่ลดลง ยืนยันว่าโรงสีไม่ได้กดราคาข้าว และไม่ได้แบ่งพื้นที่กันรับซื้อข้าว เพราะปกติจะแย่งกันซื้อข้าวจากชาวนาอยู่แล้ว ส่วนที่ชาวนามีแนวคิดรวมตัวกันเพื่อจัดทำข้าวถุงขายเองนั้น ทางโรงสียินดีสนับสนุนและสมาชิกในสมาคมพร้อมให้คำปรึกษากับชาวนาที่ต้องการทำข้าวถุงขายเอง และกล่าวด้วยว่า แม้ประเทศไทยจะปลูกข้าวมาก แต่ก็ไม่ได้เป็นผู้กำหนดราคาข้าวของโลก อย่าโยงเอาโรงสีไปอยู่ฝ่ายตรงข้าม อย่าเอาการเมืองมาเกี่ยวข้อง

นายวิชัย ศรีประเสริฐ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยกล่าวว่า ราคาข้าวที่ตกต่ำหรือเพิ่มขึ้นเป็นไปตามกลไกตลาด และไม่ได้ราคาตกแค่ข้าวไทย ประเทศอื่นก็ตกเช่นกัน ผู้ส่งออกพยายามทำวิกฤตเป็นโอกาส จะเร่งระบายข้าวออกไปให้ได้มากที่สุด ตอนนี้ทำได้เดือนละ 8 แสนตัน หากราคาลดต่ำลงอีกไม่แน่ว่าอาจระบายได้เดือนละ 1 ล้านตัน ต่อจากนี้และเมื่อถึงสิ้นปีอาจส่งออกได้มากกว่าเป้าหมายที่เคยตั้งไว้ที่ 9 ล้าน 5 แสนตัน และมูลค่ารวมก็อาจสูงขึ้นตามไปด้วย

ด้าน พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) กล่าวว่าในการประชุมศอตช.เพื่อตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐที่ต้องร่วมรับผิดชอบความเสียหายในทางละเมิดโครงการรับจำนำข้าวอีกร้อยละ 80 มีการแบ่งกลุ่มผู้รับผิดชอบเป็น 3 กลุ่ม คือกลุ่มรัฐมนตรีและคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) กลุ่มข้าราชการในกระทรวงที่มีหน้าที่รับผิดชอบ เช่น กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ ผู้ประกอบการเอกชน กับมีการตั้งคณะกรรมการ 2 ชุด เพื่อทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลและสืบสวนข้อมูลเชิงลึก เพื่อให้ข้อมูลครบถ้วน โดยในวันที่ 2 พฤศจิกายนนี้ คณะกรรมการระดับปฏิบัติการจะนำข้อมูลมาตรวจสอบร่วมกัน คาดว่าภายในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ จะได้ข้อยุติจากข้อมูลที่รวบรวมได้ทั้งหมด ทำให้สามารถเห็นรายชื่อบุคคลและหน่วยงานที่ต้องร่วมรับผิดชอบ

การประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ ยังมีการหารือแนวทางปฏิบัติของธุรกิจบันเทิง ตามที่ขอความร่วมมือมืองดจัดกิจกรรมบันเทิงเป็นเวลา 30 วันและจะครบกำหนดในวันที่ 14 พฤศจิกายนนี้

และการหารือเรื่องการปรับแก้คำปรารภในร่างรัฐธรรมนูญ ก่อนที่จะส่งให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ไปดำเนินการต่อไปตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

และความคืบหน้าเรื่องการตรวจสอบและให้ปิดเว็บไซต์ที่นำเสนอข้อความกระทบต่อสถาบันเบื้องสูงและความมั่นคง

ส่วนที่รัฐสภาในวันนี้ ช่วงเช้ามีการประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ หรือสปท.

และในช่วงบ่ายมีการประชุมกรธ. และ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช.

..