กรมทางหลวง เสนอข้อมูลให้เอกชนร่วมลงทุนก่อสร้างที่พักริมทาง 2 โครงการ

การเสนอรูปแบบการก่อสร้างที่พักริมทางโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายบางปะอิน-นครราชสีมา และสายบางใหญ่-กาญจนบุรี โดยในวันนี้กรมทางหลวงได้มีการจัดสัมมนา เพื่อนำเสนอรายละเอียดของการกำหนดจุดพักริมทางทั้ง 2 โครงการ ให้กับภาคเอกชน ได้ร่วมประเมินความสนใจ ในการลงทุนบริหารจัดการที่พักริมทาง สายบางปะอิน-นครราชสีมา และสายบางใหญ่-กาญจนบุรี โดยมีนายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นประธานเปิดงาน พร้อมกล่าวถึงแนวทางเบื้องต้นว่า ได้กำหนดจุดพักริมทางในเส้นทางสายบางปะอิน-นครราชสีมา กำหนดไว้ 8 จุด มูลค่าก่อสร้าง ประมาณ 1,200,000,000 บาท โดยมีจุดพักใหญ่ที่อำเภอปากช่อง พื้นที่ 50 ไร่ ส่วนสายบางใหญ่-กาญจนบุรี กำหนดจุดพักไว้ 3 จุด มูลค่าก่อสร้างประมาณ 900,000,000 บาท โดยเส้นทางทั้งสายบางปะอิน-นครราชสีมา และสายบางใหญ่-กาญจนบุรี จะมีจุดพักริมทางที่ประกอบไปด้วย ที่พักริมทางขนาดเล็ก (Rest Area) สถานที่บริการทางหลวงขนาดกลาง (Service Area) และ ศูนย์บริการทางหลวงขนาดใหญ่ (Service Center) มีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น อาคารสถานีขนส่งย่อย อาคารร้านค้า อาคารห้องน้ำสาธารณะ อาคารปฐมพยาบาล ศาลาพักริมทาง 

ในวันนี้จะเป็นการเสนอข้อกำหนดต่างๆ เพื่อให้ภาคเอกชนที่สนใจเข้าร่วมลงทุนการใช้ที่พักริมทาง ได้รับฟังและรวมกันแลกเปลี่ยน เสนอความคิดเห็นเพิ่มเติมผ่านการทำแบบสอบถาม โดยหลังได้รับข้อเสนอแนะแล้ว จะนำมาพิจารณา ปรับใช้ รวบรวม และทำรายงานถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมต่อไป พร้อมเปิดประมูลในปี 2560 และคาดว่าจะเปิดให้ประชาชน ใช้บริการได้ในปี 2563 ทั้งนี้ การเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนครั้งนี้ ก็เพื่อให้เป็นไปตาม พระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ.2556 รวมทั้งเป็นไปตามที่รัฐบาลได้ดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อขับเคลื่อนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญทั้งนี้โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายบางปะอิน-นครราชสีมา จะมีความสำคัญด้านเศรษฐกิจ ส่วนโครงการสายบางใหญ่-กาญจนบุรี ที่เชื่อมไปยังภาคตะวันตก ก็จะเป็นแหล่งทรัพยากรที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวให้มีความสะดวกมากขึ้น

ด้านนายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รองอธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า การสัมมนาในวันนี้จะกำหนดรูปแบบทางเลือกให้เอกชนร่วมลงทุนอยู่ 3-4 รูปแบบ นอกจากนี้ยังจะมีแนวทางในการให้สินค้าท้องถิ่นมีส่วนร่วมใช้พื้นที่ริมทาง ตามนโนบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งจะต้องมีการเสนอแนะความคิดเห็นร่วมกัน ทั้งนี้ในปีแรกของการเปิดให้บริการ คาดว่า จะมีปริมาณรถที่ใช้เส้นทางสายบางปะอิน-นครราชสีมา 43,000 คันต่อวัน สร้างรายได้ประมาณ 460,000,000 บาทต่อปี ส่วนเส้นทาง บางใหญ่-กาญจนบุรี มี 37,000 คันต่อวัน สร้างรายได้ประมาณ 260,000,000 บาทต่อปี

ผู้สื่อข่าว:เกตุกนก ครองคุ้ม