บำเพ็ญพระราชกุศลปัณรสมวาร/คสช.เปิดสาย1899 แจ้งเหตุ-พฤติกรรมไม่เหมาะ/ปธ.กรธ.พร้อมปรับแก้คำปรารภ

+++สำนักพระราชวัง แจ้งว่า ในวันพฤหัสบดีที่ 27 ตุลาคม 2559 เวลา 17.00 น. จะมีพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลปัณรสมวาร (15 วัน) พระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง โดยพระสงฆ์ 10 รูปสวดพระพุทธมนต์  มีพระธรรมเทศนากัณฑ์ 1 พระ 4 รูปสวดธรรมคาถา พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม สำหรับพระราชพิธีปัณรสมวาร เป็นการทำบุญอุทิศถวายแด่พระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในวาระครบรอบวันสวรรคต 15 วัน เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทิตา น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

+++ส่วนหลายหน่วยงานจัดพิธีบำเพ็ญกุศลครบ15วันเช่นกัน ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรด้านหน้าอาคารสำนักงานปลัดสำนักนายกฯ  ทำเนียบรัฐบาล ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร(กทม.) นายภัทรุตม์ ทรรทรานนท์ ปลัดกทม.เป็นประธานในพิธี นายอธิคม อินทุภูติ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม นำคณะผู้บริหารสำนักงานศาลยุติธรรม ร่วมพิธีบำเพ็ญกุศล ที่อาคารศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เช่นเดียวกับ อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่งกรุงเทพใต้ และศาลอาญากรุงเทพใต้ นำคณะผู้บริหาร ผู้พิพากษา และข้าราชการ  ร่วมพิธีบำเพ็ญพระราชกุศล ขณะที่ เลขานุการศาลแพ่งกรุงเทพใต้ แจ้งว่า ข้าราชการและลูกจ้างในศาลจะแปรอักษรรูปหัวใจด้วย ส่วนที่รัฐสภา เช้านี้ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)ทำบุญตักบาตรพระสงฆ์  89 รูป ด้วย  

+++การจัดการจราจรในช่วง 29-31 ต.ค. พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 กล่าวว่า ตำรวจจะปิดการจราจรตั้งแต่เวลา 07.00 น. ในช่วงวันดังกล่าว ตั้งแต่แยกหลานหลวง สะพานผ่านฟ้าฯ จนถึงรอบพระบรมมหาราชวัง เพื่อให้รถวิ่งไปทางสะพานพระราม 8 ส่วน ฝั่งธนบุรีจะปิดแยกอรุณอมรินทร์ โดยให้จอดรถฝั่งธนบุรีแล้วลงเรือข้ามฟากที่ท่าวังหลังมายังท่าพระจันทร์ ท่ามหาราช โดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก

+++นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังประชุมศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ (ศตส.) ที่ทำเนียบรัฐบาลว่า

กระทรวงคมนาคม มีโครงการนำเรือใหญ่มาวิ่งให้บริการ จะทดลองในวันที่ 28 ตุลาคมนี้ เป็นเรือใหญ่จุได้ 400 คน เส้นทางทดลองวิ่งคือจากท่าสาทรถึงท่าช้าง จะได้ประเมินเรื่องการให้บริการ

+++ส่วนการจัดอำนวยความสะดวกให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมโกศ โดยการให้รับบัตรคิว และมีจุดพักคอย นายสุวพันธุ์ ประเมินว่าจะอำนวยความสะดวกได้วันละ 10,000 คน จึงต้องขอร้องว่าไม่ต้องรีบเร่งเข้ามาช่วงวันแรกๆ ขอให้ทยอยกันเข้ามา ศตส.จะประเมินสถานการณ์เป็นรายวัน หากสามารถเพิ่มจำนวนได้มากขึ้นกว่าวันละ 10,000 คนก็จะเพิ่มให้ ศตส.จะประชุมอีกครั้งในวันที่ 30 ตุลาคม เวลา 09.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อประเมินสถานการณ์จากวันที่ 29 ตุลาคมอีกครั้งว่ามีจุดไหนจะต้องแก้ไขสถานการณ์อย่างไร

+++กระทรวงมหาดไทย ได้จัดคิวให้ประชาชนในต่างจังหวัดเข้ามากราบพระบรมศพวันละ 5 จังหวัด จังหวัดละ 750 คน เมื่อรวมกับประชาชนในกรุงเทพฯและผู้ที่เดินทางมาเองจากต่างจังหวัด คาดว่าจะมีจำนวนมาก พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวว่า การแจกบัตรคิวเป็นหน้าที่ของกองทัพภาคที่ 1 กทม.จัดเต็นท์และเก้าอี้สำหรับนั่งรอคิว ก่อนเข้าไปยังพระบรมมหาราชวัง จำนวน 1,800 ตัว ด้านหลังจะมีเต็นท์สำหรับยืนรอสามารถรองรับประชาชนได้อีก 1,300 คน

+++ส่วนวันที่ 1 พฤศจิกายน จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมพระบรมมหาราชวังได้ตามปกติ ตำรวจจราจร ได้เตรียมแผนรองรับเรื่องการจราจรของรถทัวร์ประมาณ 200 คัน เป็นทัวร์ท่องเที่ยว โดยเฉพาะเส้นทางจากพระที่นั่งอนันตมหาสมาคมถึงพระบรมมหาราชวัง โดยให้จอดรับนักท่องเที่ยวในจุดเดิมที่เคยปฏิบัติกันอยู่ แต่ตำรวจจราจร จะจัดการบริหารในส่วนนี้ไปตามสถานการณ์เฉพาะหน้า ศตส.ได้ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาไปประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและชี้แจงแนวทางปฏิบัติต่อสมาคมโรงแรม สมาคมทัวร์ต่างๆ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

+++พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กล่าวว่า จากการที่เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจค้นอาวุธจากจุดคัดกรองประชาชนทั้ง 9 จุดรอบบริเวณสนามหลวงและพระบรมมหาราชวัง ตรวจยึดอาวุธของมีคมได้เป็นจำนวนมาก เบื้องต้นถูกลงโทษเปรียบเทียบปรับ 1,000 บาท อยากประชาสัมพันธ์ว่าไม่จำเป็นต้องนำเข้ามา เพราะมีเจ้าหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยอยู่จำนวนมากแล้ว

+++พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า กรณีพบการปฏิบัติของบางบุคคลที่ดูไม่เรียบร้อยเหมาะสมสามารถแจ้ง กอ.ร่วมฯ ได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 1899

+++สถานการณ์น้ำและฝน พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำบริเวณลุ่มแม่เจ้าพระยากำลังกลับเข้าสู่ภาวะปกติ คาดว่า ภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้ ปัญหาน้ำเอ่อล้นและน้ำท่วมน่าจะหมดไป ขณะนี้ มีเพียง 2 จุดที่มีปัญหาน้ำเอ่อล้นตลิ่งคือคลองโผงเผง จ.อ่างทอง และตลาดเสนา จ.พระนครศรีอยุธยา สั่งการให้กรมชลประทาน ให้ความช่วยเหลือทุกด้าน รวมถึงช่วยเหลือหลังน้ำลดด้วย

+++นายสุรสีห์ กิตติมณฑล รองอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร รักษาราชการแทนอธิบดีกรมฝนหลวงฯ กล่าวว่า กรมฝนหลวงฯ ปรับแผนการเติมน้ำในเขื่อนเขตอีสานตอนล่าง และเพิ่มเครื่องบินในหน่วยปฏิบัติการที่ จ.นครราชสีมา 6 ลำ ทำให้ปัจจุบัน 3 หน่วยในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คือ จ.บุรีรัมย์ จ.นครราชสีมา จ.ขอนแก่น มีเครื่องบินปฏิบัติการรวม 11 ลำ โดยเดือนตุลาคมนี้ สามารถเติมน้ำเขื่อนลำตะคองได้ 6 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนลำพระเพลิง 11 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนมูลบน 9 ล้าน ลบ.ม. และเขื่อนลำแชะ 12 ล้าน ลบ.ม. ส่วนเขื่อนที่น่าเป็นห่วงคือลำตะคองที่ยังมีปริมาณน้ำใช้การเพียงร้อยละ 27

+++นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) และรักษาการผู้อำนวยการ สนค. กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยตัวเลขส่งออกเดือนกันยายน 2559 มีมูลค่า 19,460 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวเป็นบวกร้อยละ 3.4 ขยายตัวเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน และสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี นับตั้งแต่ตุลาคม 2557 เป็นผลจากส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม บวกร้อยละ 4.2  ประกอบกับตลาดส่งออกสำคัญ เช่น ยุโรป จีน สหรัฐฯ อาเซียน ออสเตรเลีย เป็นบวกเกือบทุกตลาด เว้นตะวันออกกลาง

+++แนวโน้มส่งออกไทยในช่วง 3 เดือนสุดท้ายปีนี้ คาดจะเป็นบวกทุกเดือน หากส่งออกได้ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 18,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่ต้องติดตามปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลต่อความผันผวนค่าเงิน เช่น การออกมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน (คิวอี) ระลอกใหม่ เบร็กซิท เป็นต้น

+++ความเคลื่อนไหวการร่างรัฐธรรมนูญ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. กล่าวภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ให้ กรธ.ปรับคำปรารภร่างรัฐธรรมนูญ ก่อนส่งให้นายกฯนำขึ้นทูลเกล้าฯว่า เป็นภารกิจเพิ่มเติมที่ กรธ.ต้องแก้ไขเพื่อส่งคืนรัฐบาลให้ดำเนินการได้ภายในกำหนดเวลาที่รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 กำหนดไว้

+++พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงการติดตามตัวผู้กระทำผิดตามมาตรา 112 ว่าตอนนี้ได้รับความร่วมมือจากหลายประเทศที่กระทรวงยุติธรรมได้ประสานไป ได้รับการติดต่อจากเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย ทั้ง 7 ประเทศ เชื่อว่าประเทศต่างๆ ทำได้ โดยการใช้กฎหมายและวิธีการต่างๆ ที่มีอยู่ในประเทศนั้นๆ ควบคุม นายกฯ บอกแล้วว่า ในสถานการณ์แบบนี้ ไม่อยากให้ทะเลาะกัน ได้บอกแล้วว่า หากสื่อและสังคมไม่ให้ความสำคัญกับกลุ่มบุคคลดังกล่าว ถ้าหายไปจากโลกโซเชียลมีเดีย ก็ไม่มีอะไร

แฟ้มภาพ