นายกฯ เป็นห่วงคนไทย ทำร้ายกัน ย้ำม. 112 ปกป้องสถาบัน จากผู้จงใจหมิ่น

หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ย้ำให้แสดงความเชื่อมั่น อย่าให้ต่างชาติมองยังว่าเรายังทะเลาะกัน และอย่าดึงสถาบันลงมาส่วนเรื่องกฎหมายมาตรา 112 สถาบันไม่เคยออกกฎหมายเหล่านี้ แต่กฎหมายเหล่านี้มีเพื่อปกป้องพระองค์ท่าน ส่วนเรื่องการแสดงออกที่ไม่เหมาะสมหรือโพสต์หมิ่นสถาบัน นายกรัฐมนตรี ขอให้ระมัดนระวังอย่าทำร้ายกันและกันด้วยความรู้สึกส่วนตัว และอย่าใช้มาตรการความรุนแรง โดยขอให้ดูเหตุผลในการกระทำของแต่ละคน ซึ่งหากพบว่าเป็นการจงใจก็ขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกระบวนการกฎหมาย

นายกรัฐมนตรียืนยันไม่เคยมีเว็บเพจเป็นของตนเองหลังจากที่มีผู้สร้างบัญชีรายชื่อเป็นตัวเองและโพสโจมตี นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย พร้อมกันนี้ขอขอบคุณสำหรับผู้ที่หวังดี แต่ให้มองในเหรียญทั้งสองด้าน เพราะหากทำมากไปย่อมมีคนไม่ชอบ โดยขอให้คนในประเทศมีเหตุผลไม่แบ่งสีแบ่งแยก เพื่อถวายพระองค์ท่าน

สำหรับการทำงานของของรัฐบาลได้ยึดหลักปรัชญา ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาโดยตลอด เพราะพระองค์ท่านทำทุกเรื่องให้กับแผ่นดิน ให้อยู่ดีกินดี น้ำ และขอให้ประชาชนระลึกว่าท่านอยู่กับพวกเราเสมอเพราะท่านอยู่กับสิ่งต่างๆ อยู่ในหัวใจทุกคน พร้อมขอให้น้อมนำสิ่งที่ท่านริเริ่มมาใช้ให้เป็นประโยชน์มากขึ้น โดยซึ่งรัฐบาลก็นำหลักเศรษฐกิจพอเพียงซึ่งก็สามารถทำให้ประเทศผ่านวิกฤติครั้งใหญ่มาได้ทั้งวิกฤติน้ำท่วมใหญ่และวิกฤติต้มยำกุ้ง

ส่วนมาตรการเตรียมรองรับประชาชนที่จะเข้ามาถวายสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในวันที่ 29 ต.ค. นี้ ว่า ขณะนี้ได้หมอบหมายทุกหน่วยงานไปแล้ว ซึ่งมีการตั้งศูนย์อำนวยการร่วมที่ท้องสนามหลวง รวมถึงการจัดระเบียบการเข้าถวายสักการะพระบรมศพ ขณะเดียวกันในวันที่ 26 ต.ค. ได้มอบหมายให้ศูนย์ติดตามสถานการณ์ (ศตส.) ประชุมพิจารณาหารือนำแผนเพื่อรองรับประชาชนซึ่งเห็นได้ว่าการจัดระเบียบดีขึ้นทั้งการรักษาความปลอดภัย น้ำ ขยะ ส่วนอาหารที่มีคนนำมาแจกจำนวนมากถือเป็นน้ำใจแต่จะต้องดูว่ามากหรือน้อยเกินไปหรือไม่ อาจจะต้องปรับให้เป็นอาหารแห้งหรืออาหารสำเร็จรูป เพื่อดูว่าจะสามารถไปทำอะไรได้อีกบ้าง เนื่ิองจากยังมีคนยากลำบากอีกมากและยังมีประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม อาจจะให้กทม.และกระทรวงมหาดไทยไปใช้ประโยชน์ต่อไป

สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ผู้ที่มีโรคประจำตัว ลมชัก ความดัน จะต้องมีรายละเอียดของตัวเองใส่ประเป๋าเสื้อไว้ หากเกิดเหตุจะได้ช่วยเหลือได้ทันท่วงที เช่นเดียวกับเด็กที่อาจพลัดหลงกับผู้ปกครอง พร้อมสั่งตำรวจหน่วยเคลื่อนเร็วช่วยเหลือประชาชน ทั้งนี้ถือว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามกุฏราชกุมาร ทรงให้หน่วยงานในพระองค์ดำเนินการนำอาหารมาแจกจ่ายให้กับประชาชนทุกวัน ส่วนการตั้งกรรมการ และอนุกรรมการจัดเตรียมงานถวายพระเพลิงพระบรมศพ  พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ได้ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เสนอตั้งคณะกรรมการโดยมี นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ร่วมกันคณะกรรมการอื่นๆ และเตรียมประชุมในเร็วๆนี้ เนื่องจากต้องรอการประสานจากสำนักพระราชวัง