ศตส. เพิ่มทีมแพทย์ หน่วยรักษาความปลอดภัย รับประชาชนที่หลั่งไหลมาที่สนามหลวง

การประชุมเตรียมความพร้อมเพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่จะเดินทางมาลงนามถวายความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล ในช่วงวันหยุด 3 วัน ของศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ หรือ ศตส.นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในที่ประชุมวันนี้ได้รับทราบสถานการณ์ของประชาชนที่ทยอยเดินทางกัน ไปยังบริเวณพระบรมมหาราชวังอย่างหนาแน่น รวมทั้งได้มีการทยอยปิดการจราจรในบริเวณโดยรอบ ซึ่งในวันนี้การเข้าพื้นที่ของประชาชนอาจเป็นไปด้วยความยากลำบากและมีปัญหาอุปสรรค แต่ก็จะพยายามจัดรถรับส่งเพื่ออำนวยความสะดวกให้เข้าในพื้นที่ได้มากที่สุด เพราะในขณะนี้ทางรถรับส่งเองก็ประสบปัญหาไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้เช่นกัน โดยแนะนำว่าหากประชาชนที่เดินทางมาจากฝั่งธนบุรี ให้เดินทางมาโดยเรือจะสะดวกกว่า ส่วนกรณีรถเช่าเหมาที่ประชาชนเช่ามาเอง แนะนำว่าให้จอดไว้ตามจุด ที่ได้กำหนดไว้ และนั่งรถที่จัดบริการรับส่งให้แทน อีกทั้งยังมีความจำเป็นต้องจัดพื้นที่ถนนในบางส่วนเพื่อให้ทางกับรถพยาบาลเข้าออกในกรณีฉุกเฉิน

อย่างไรก็ตาม คาดว่าในวันพรุ่งนี้และวันจันทร์ การจราจร จะเป็นไปตามแผนที่วางไว้ นอกจากนี้ในวันนี้ยังได้มีการเพิ่มทีมแพทย์และสาธารณสุขเดินเท้าอีก 200 คน โดยได้รับความร่วมมือจากแพทย์อาสาโรงพยาบาลเอกชนกว่า 20 แห่ง ซึ่งกระทรวงแรงงานจะเป็นผู้จัดหาเต้นท์เพิ่มเติมเข้ามาเสริม

ด้านความปลอดภัย ได้มีการเพิ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรจากทุกสถานีอีก 200 นายเข้ามาดูแลในพื้นที่บริเวณชั้นใน และได้มีการเพิ่มหน่วยรักษาความปลอดภัย อีก 1,500 นาย จากนครบาล 6 กองร้อยและภูธรภาค 7 กองร้อย ขณะที่สถานการณ์ด้านความมั่นคงขณะนี้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความราบรื่นและยังไม่พบความผิดปกติใด พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำชับเรื่องการดูแลความปลอดภัยของประชาชนอย่างเคร่งครัด

หลังจากนี้ ศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ จะมีการประชุมอีกครั้งในวันที่ 26 ตุลาคมเวลา 9.00 น. เพื่อวางแผนการอำนวยความสะดวก ตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม ที่สำนักพระราชวัง จะมีการเปิดให้ประชาชน เข้าไปกราบบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ภายในพระที่นั่งดุสิตปราสาท พระบรมมหาราชวัง

ผู้สื่อข่าว:เกตุกนก ครองคุ้ม