รองแม่ทัพภาค1 เผยบ่ายนี้เริ่มแจกบัตรคิวให้ปชช. พร้อมจัดระเบียบของบริจาค ลงทะเบียนจิตอาสา

การจัดระเบียบแถวผู้ที่ร่วมลงนามถวายความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ศาลาสหหัยสมาคม พระบรมมหาราชวัง พลตรีพงษ์สวัสดิ์ พรรณจิตต์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 เปิดเผยหลังการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ช่วงบ่ายวันนี้จะเริ่มแจกบัตรคิวให้ผู้ที่ร่วมลงนามถวายความอาลัยวันละ37,000คิว โดยจะแบ่งให้เข้าไปภายในพระบรมมหาราชวังได้ครั้งละ100คิว เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนไม่ต้องยืนตากแดดเป็นเวลานาน

และในแต่ละวันก็จะมีการแจกบัตรคิวให้ประชาชนทุกวันวันละ 37,000 คิว รวมถึงมีการแจกแผ่นพับที่ระบุแผนที่รอบสนามหลวงว่าจุดใดมีบริการอะไรบ้าง รองแม่ทัพภาคที่1 ห่วงว่า หลังจากวันที่28ตุลาคม ที่จะเปิดให้ประชาชนกราบบังคมพระบรมศพ  ณ.พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท  จะต้องมีการเตรียมการในเรื่องของการจราจร การอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้กับประชาชน  เนื่องจาก กังวลเรื่องของมิจฉาชีพที่แฝงตัวเข้ามา ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้รับแจ้งว่ามีการก่อเหตุจากมิจฉาชีพ แต่สิ่งที่เป็นห่วงมากคือ ประชาชนที่มีโรคประจำตัวและเด็กเล็กที่อาจจะพลัดหลงกับผู้ปกครองได้

ส่วนการบริจาคสิ่งของขณะนี้ มีผู้ที่ประสงค์บริจาคจำนวนมาก จึงต้องมีการจัดระเบียบเพิ่มขึ้นและอยากประชาสัมพันธ์สิ่งที่ยังขาดอีก เช่น อาหารที่สามารถเก็บไว้ได้นานหรืออาหารแห้ง,ร่ม,หมวก,เสื้อดำ ,เสื้อกันฝน มากกว่าอาหารสำเร็จรูปที่แจกอยู่กัน  อีกทั้งจะจัดระเบียบแม่ค้าแผงลอยและหาบเร่ให้ขายบริเวณรอบนอก ไม่อนุญาตให้เข้ามายังภายในท้องสนามหลวงได้  ขณะเดียวกันจุดที่ประชาชนมาจุดเทียนรอบกำแพงรั้วพระบรมมหาราชวัง ตอนนี้มีการตั้งโต๊ะเป็นจุดๆเพื่อให้จิตอาสานำดอกไม้ที่ประชาชนมาถวายความอาลัยไปประดับสวนสราญรมย์

ด้านนายวิกร เพิ่มพวก ผู้ช่วยผู้อำนวยการจากศูนย์ประสานงานอาสาสมัคร ระบุว่า ขณะนี้ที่ศูนย์มีการขอความร่วมมือจากจิตอาสาในการจัดระเบียบเรื่องขยะและในเรื่องอื่นๆด้วย โดยศูนย์มีการเปิดให้จิตอาสามาลงทะเบียนที่ศูนย์อาสาสมัครภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หลังจากเมื่อวานนี้เปิดให้ผู้ที่มีจิตมาอาสาลงทะเบียนเป็นวันแรก พบว่ามีประชาชนมาลงทะเบียน519 คน ขณะนี้ยังต้องการจิตอาสาเพิ่มอีก ในเบื้องต้น แบ่งเป็นวันธรรมดา700คนต่อวัน และวันเสาร์-อาทิตย์หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ 1,000คนต่อวัน เพื่อที่จะสามารถแจกจ่ายงานแบ่งหน้าที่กันไปและอำนวยความสะดวกให้ประชาชนอีกด้วย

ผู้สื่อข่าว: ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ