กทม.พร้อมรับมือฝนตกหนัก-น้ำทะเลหนุนสูง/ททท.เตือนวินาศกรรมกระทบระยะสั้น/ผู้นำรัสเซียเลื่อนไปฝรั่งเศส

สรุปข่าว 19.35 น.

+++กรุงเทพมหานครรับมือฝนตกหนัก นายเฉลิมพล โชตินุชิต รองผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 12-15 ตุลาคมนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากในบางพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร นอกจากนี้ กรมชลประทานยังมีแผนจะเพิ่มการระบายน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยา จากวันละ 2,000 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)ต่อวินาที เป็น 2,300 ลบ.ม./วินาที และเขื่อนพระรามหก จากวันละ 600 ลบ.ม./วินาที เป็น 700 ลบ.ม./วินาที ประกอบกับในช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป แม่น้ำเจ้าพระยาในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ จะเกิดภาวะน้ำทะเลหนุนสูง ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีระดับสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม กทม.ได้ก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย และคลองมหาสวัสดิ์ ต่อเนื่องครบแล้ว โดยจุดที่มีลักษณะฟันหลอ 2 จุด บริเวณถนนทรงวาด และบริเวณแยกเกียกกายที่กำลังก่อสร้างอาคารรัฐสภา ได้จัดทำแนวเขื่อนกั้นน้ำชั่วคราว โดยจัดเรียงกระสอบทรายเป็นแนวป้องกันน้ำไว้ทุกจุด มั่นใจได้ว่า กทม.สามารถรับมือกับสถานการณ์น้ำทั้งปริมาณน้ำฝน น้ำเหนือ และน้ำทะเลหนุน ได้แน่นอน

สำหรับจุดที่น่าเป็นห่วงอยู่บ้าง คือ ประชาชนที่มีบ้านเรือนอาศัยอยู่นอกแนวคันป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย และคลองมหาสวัสดิ์ ซึ่งอาจจะได้รับผลกระทบและความเดือดร้อนจากน้ำท่วมได้ โดยจากการสำรวจเบื้องต้น มีบ้านเรือนประชาชนที่อยู่นอกแนวคันป้องกันน้ำท่วม 681 ครัวเรือน ในพื้นที่ 11 เขต ได้แก่ บางซื่อ ดุสิต พระนคร สัมพันธวงศ์ บางคอแหลม ยานนาวา คลองเตย บางพลัด บางกอกน้อย คลองสาน และราษฎร์บูรณะ จึงขอให้เตรียมขนย้ายสิ่งของให้อยู่ในที่สูง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนหากเกิดปัญหาระดับน้ำขึ้นสูง

++++การเฝ้าระวังเหตุรุนแรง นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) กล่าวว่า รฟม.ได้สั่งการให้ หน่วยงานด้านความปลอดภัยของ รฟม. ให้ดำเนินการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด จัดรถยนต์สายตรวจ ตรวจรอบบริเวณศูนย์ซ่อมบำรุงคลองบางไผ่ และศูนย์ซ่อมบำรุงห้วยขวาง ทุก 1 ชั่วโมง จัดกำลังหน่วยทำลายวัตถุระเบิด(อีโอดี) และสุนัข K-9 ตรวจตรา และเตรียมความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง เตรียมกำลังหน่วยกู้ภัยพร้อมอุปกรณ์ในที่ตั้งตลอด 24 ชั่วโมง ประสานงานเพื่อตรวจสอบข่าวกับหน่วยความมั่นคงและตำรวจสันติบาลตลอดเวลา

+++นายนพดล ภาคพรต รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงกรณีการแจ้งเตือนการก่อการร้ายและก่อเหตุวินาศกรรม ในพื้นที่กรุงเทพฯส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวที่มีกำหนดเดินทางมาประเทศไทยอยู่บ้าง แต่เป็นเพียงระยะสั้น เบื้องต้นจากการตรวจสอบยังไม่มีกรุ๊ปทัวร์ขอยกเลิกการจองในช่วงดังกล่าว มั่นใจมาตรการป้องกันเหตุก่อการร้ายของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร ทั้งนี้ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนกกับข่าวที่เกิดขึ้นพร้อมให้ช่วยกันทำหน้าที่เป็นหูเป็นตา ติดตามข่าวสารอย่างใกล้

+++หลังศาลมีคำสั่งถอนประกันนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช. ระหว่างต่อสู้ คดีก่อการร้าย กรณีออกรายการและมีการพูดคุยในลักษณะยุยง ปลุกปั่น ซึ่งผิดเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราว นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ กล่าวว่า ทางเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ได้รับตัวนายจตุพรมาคุมขังยังเรือนจำแล้ว และได้ทำการตรวจสุขภาพร่างกาย พิมพ์ลายนิ้วมือ และทำประวัติผู้ต้องขัง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้รายงานเบื้องต้นให้ตนทราบว่าจากการตรวจสุขภาพร่างกายและจิตใจพบว่ามีความปกติดี แต่นายจตุพรมีโรคประจำตัวคือเป็นโรคหมอนรองกระดูกสันหลัง อย่างไรก็ตาม หลังจากที่แพทย์ได้ทำการตรวจสุขภาพร่างกายเสร็จแล้ว ได้ส่งตัวนายจตุพรไปคุมขังยังแดนแรกรับ ส่วนการดูแลนั้นเป็นไปตามระเบียบปกติของทางเรือนจำ ไม่มีมาตรการพิเศษอะไร ทั้งนี้ ทางเรือนจำยังไม่ได้รับการร้องขออะไรจากนายจตุพร สำหรับการเยี่ยมผู้ต้องขังทำได้ตามปกติ คือวันจันทร์ถึงศุกร์ สามารถเข้าเยี่ยมได้ในเวลาราชการ ส่วนวันเสาร์ จะเปิดให้เยี่ยมถึงเวลา 12.00 น.

+++นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) เปิดเผยว่า หลังจากส่งมอบร่างรัฐธรรมนูญให้นายกรัฐมนตรีแล้ว นายกรัฐมนตรี ไม่ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษ เพียงแต่ให้กำลังใจ กรธ. ในการทำกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญให้ลุล่วง แม้มีอุปสรรคบ้าง และเมื่อรัฐธรรมนูญใหม่มีผลบังคับใช้ นายกรัฐมนตรี ยังใช้อำนาจตามมาตรา 44 ได้ แต่มีประกาศบางฉบับที่อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ ก็ต้องแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงใหม่ หรืออาจต้องยกเลิกให้สอดคล้องกัน ในรัฐธรรมนูญยังเขียนให้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ได้ แต่บางส่วนเริ่มจะขัดรัฐธรรมนูญ ก็ต้องยกเลิกเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งจะมีเป็นบางส่วน  ไม่ใช่ทั้งฉบับ  ส่วนกรอบเวลาในการจัดทำกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่า  กรธ.จะพยายามเร่งทำ เพื่อให้อยู่ในกรอบการเลือกตั้งปลายปี 2560 แต่ยังตอบไม่ได้ว่า จะเป็นไปตามที่รัฐบาลต้องการหรือไม่

+++พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีสั่งการให้ทุกกระทรวงติดตามข่าวสารและชี้แจงข้อมูลบิดเบือน ที่กระทบต่อรัฐบาลอย่างทันท่วงที หากพบว่ามีข้อมูลที่พาดพิงถึงภารกิจหน้าที่ของหน่วยงานใด ไม่ตรงกับความเป็นจริง หน่วยงานดังกล่าวต้องไม่ปล่อยให้คนไทยเข้าใจผิด และจะต้องเร่งชี้แจงให้ประชาชนได้เข้าใจถูกต้องโดยเร็ว เพราะหากปล่อยไว้นาน ประชาชนจะเกิดความสับสน

+++นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยในปัจจุบันได้รับกระแสข่าวทั้งในและต่างประเทศที่เป็นผลกระทบต่อดัชนีค่อนข้างมาก แต่อย่างไรก็ตามมองว่าพื้นฐานของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ของไทยยังถือว่าเข้มแข็ง และยังไม่เปลี่ยนแปลง จึงแนะนำว่าหากนักลงทุนที่ความชำนาญไม่มากนัก ในความผันผวนที่ค่อนข้างมาก ให้เข้าไปลงทุนในกองทุนรวมแทน และมีการติดตามข่าวสารต่าง ๆ อย่างใกล้ชิดในช่วง 9 เดือนบจ.มีการเพิ่มทุนคิดเป็นมูลค่า 1.81 แสนล้านบาท เติบโต 115% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน อยู่ที่ 8.41 หมื่นล้านบาท

++++ดัชนีหุ้นไทย ปิดภาคบ่าย เจอแรงเทขายปิดตลาดลดลง 14.81 จุด ที่ 1,442.21 จุด มูลค่าการซื้อขายกว่า 65,340 ล้านบาท  นายเอกภาวิน สุนทราภิชาติ ผช.ผอ.ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยค่อนข้างผันผวนและเปราะบางมาก โดยภาคเช้ายังเป็นบวกจากแรงพยุงในกลุ่มพลังงาน แต่ภาคบ่ายนักลงทุนกลับเทขาย โดยมีหลายปัจจัยเข้ามากดดันตลาดทั้งเรื่องของเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยปลายปีนี้,เบร็กซิทและความเสี่ยงภายในเช่นเรื่องของข่าวการก่อการร้ายในประเทศ

+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดพุ่งขึ้นเหนือระดับ 17,000 จุดเป็นครั้งแรกในรอบ 1 เดือนในวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นกว่า 3% เมื่อคืนนี้ และจากการที่นักลงทุนขานรับชัยชนะในการโต้วาทีครั้งที่ 2 ของนางฮิลลารี คลินตัน ผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครตปิดตลาดพุ่งขึ้น 164.67 จุด ที่ 17,024.76 จุด  ดัชนีฮั่งเส็งร่วงลง 302.30 จุด หรือ 1.27% ปิดวันนี้ที่ 23,549.52 จุด

+++พรุ่งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมคณะ จะออกเดินทางจากสนามบินเฮลิคอปเตอร์ ร.1 พัน 1 รอ. ไปยัง จุดจอดเฮลิคอปเตอร์ กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ (ร.21 รอ.) ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ร่วมพิธีเปิดอาคารเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา บรมราชินีนาถ พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการ จากนั้นเวลา 11.00 น. นายกฯจะเดินทางไปพบปะประชาชนจำนวน 1,000 คน ที่ศาลาประชาคมอ่าวอุดม ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ก่อนจะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐบาลและเอกชน เพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) ส่วนกลางและคณะกรรมการกรอ.กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก อาทิ ชลบุรี ระยอง จันทบุรีและตราด ที่ ก่อนจะเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์กลับกรุงเทพฯทันที

++ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียได้เลื่อนแผนการเยือนฝรั่งเศส หลังมีปัญหาขัดแย้งเรื่องแนวทางการแก้ปัญหาวิกฤติของซีเรีย ตามกำหนดเดิมนายปูตินจะเยือนกรุงปารีสในวันที่ 19 ตุลาคมนี้ เพื่อหารือเรื่องปัญหาวิกฤติในซีเรีย แต่เมื่อวันจันทร์ ประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ของฝรั่งเศสให้สัมภาษณ์สื่อโทรทัศน์ท้องถิ่นแห่งหนึ่งว่าผู้นำรัสเซียควรจะถูกตั้งข้อหาอาชญกรรมสงครามกรณีการสั่งการให้มีการโจมตีทางอากาศในย่านชุมชนในเมืองอเล็ปโป เมืองใหญ่อันดับสองของซีเรีย ผู้นำฝรั่งเศสเพิ่มเติมว่าการดำเนินคดีควรจะเกิดขึ้นที่ศาลไอซีซี(ศาลอาญาระหว่างประเทศ) เพื่อเอาผิดกับกลุ่มบุคคลที่ต้องรับผิดชอบ

 ++++เชียร์กันต่อ ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าโค้ช ทีมชาติไทย ประกาศรายชื่อ 11 นักเตะตัวจริง ที่จะแข่งขันกับ อิรัก ในฟุตบอลโลก 2018 รอบ 12 ทีมสุดท้าย โซนเอเชีย กลุ่ม B ออกมาแล้ว โดยเป็นผู้เล่นชุดเดิม จากเกมแพ้ ยูเออี 1-3 ทั้ง 11 คน ลงแข่งที่ สนาม ปาส สเตเดี้ยม กรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน ซึ่งเป็นสนามกลาง เวลาไทย 19.30 น. ช่อง 7 สีถ่ายทอดสด การเจอกัน 2 นัด ในรอบที่แล้ว เสมอ 2-2 ทั้ง 2 นัด