การสืบสวนขยายผลจับกุมผู้ต้องหาฉ้อโกงจำนำรถ โดยมีการเปิดเต้นท์รถมือ 2 เพื่อบังหน้า
พลตำรวจตรี สุทิน ทรัพย์พ่วง รักษาราชการแทนผู้บังคับการกองปราบปราม ร่วมกับตำรวจกองกำกับการ 2 ถึงคดีฉ้อโกงจำนำรถผ่านบริษัทเต้นท์รถมือสอง ที่มีมูลค่าความเสียหายรวมทั้งหมดประมาณ 20 ล้านบาท โดยมีนางสาวรุ่งรัตน์ บานชื่น อายุ 41 ปี ซึ่งผู้ต้องหาตามหมายจับค้างเก่าจำนวน 6 หมายร่วมกับผู้ต้องหาที่กำลังหลบหนีอยู่ ปลอมแปลงเอกสารจัดตั้งบริษัทโพสเกรส ดีเวลลอปเม็นท์ จำกัด หลอกลวงผู้เสียหายหลายราย โดยมีพฤติการณ์ คือเปิดเต้นท์รถมือสองพร้อมกับรับรีไฟแนนซ์ และหลอกลวงให้ผู้เสียหายให้นำเงินมาร่วมลงทุนในธุรกิจไฟแนนซ์และหลอกลวงว่าจะแบ่งเงินปันผลให้ร้อยละ 2 ต่อเดือนจากจำนวนเงินที่นำมาลงทุน
ซึ่งนายฤิทธิไกร ประวัติ หนึ่งในผู้เสียหายเปิดเผยว่า ได้นำรถหกล้อไปรีไฟแนนซ์กับนางสาวรุ่งรัตน์ แต่กลับถูกยึดรถไว้โดยอ้างว่าจะนำรถไปตรวจสภาพแต่หลังจากนั้นกลับพบว่ารถตัวเองถูกประกาศขายในอินเตอร์เน็ต ซึ่งได้ติดต่อไปสอบถามไปยังนางสาวรุ่งรัตน์ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ด้านพลตำรวจตรี สุทิน เปิดเผยว่า จากการตรวจค้นบ้านพักของนางสาวรุ่งรัตน์พบรถยนต์จำนวน 3 คัน ที่มีการสวมทะเบียนอื่นที่ไม่ตรงกับรุ่นของรถและพบสมุดบันทึกอีกหนึ่งเล่มโดยภายในสมุดได้จดรายชื่อรุ่นรถที่หมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 200 คัน เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพและยอมรับว่ามีผู้ร่วมกระบวนการรายอื่นร่วมด้วยซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลจับกุมผู้ต้องหารายอื่น
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบหลักฐาน อาทิ ป้ายทะเบียน เอกสารซื้อขายรถ สำเนาทะเบียนรถ ว่าเป็นเอกสารจริงหรือไม่ อีกทั้งยังอยู่ระหว่างการสืบสวนว่ารถที่นางสาวรุ่งรัตน์ยึดไปนั้นถูกส่งไปขายออกนอกประเทศหรือไม่ โดยพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหา ปลอมแปลงเอกสาร ร่วมกันยักยอกทรัพย์ ฉ้อโกง ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2535 โดยหลังการแถลงได้นำตัวผู้ต้องหาส่งศาลจังหวัดฉะเชิงเทราเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
...
ผสข.พนิตา สืบสมุทร
คืนพื้นที่ให้สตง.15 พ.ค.นี้! รื้อซากถล่มหมดแล้ว พิสูจน์หาผู้สูญหายอีก7ราย
ทรัมป์เสนอลดภาษีสินค้าจีนเหลือ 80% ก่อนการเจรจาการค้าสุดสัปดาห์นี้
สมเด็จพระสันตะปาปาเลโอที่ 14 ทรงเตือนประชาชนอย่าขาดศรัทธา ในพิธีมิสซาครั้งแรกที่วาติกัน
ข่าวทั้งหมด
