ระวังบ้าน 309 หลังคาเรือนนอกเขื่อน/ตร.ใกล้สรุปสำนวนคดีธวัชชัยส่งอัยการ/สมคิดเตือนมองพื้นฐานศก.หลังหุ้นไทยร่วง47.32 จุด

+++สถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ นายสมพงษ์ เวียงแก้ว ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า ขณะนี้ ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา อยู่ที่ระดับ +1.10ม.รทก. ซึ่งในส่วนของน้ำเหนือและน้ำทะเลหนุน สำหรับกรุงเทพฯยังไม่น่าเป็นห่วงเท่าจังหวัดอื่นๆ เนื่องจากถือเป็นพื้นที่ปลายน้ำ กทม.ได้ประสานข้อมูลจากกรมชลประทานในการปล่อยมวลน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาอย่างต่อเนื่อง

+++สำหรับพื้นที่กรุงเทพฯขณะนี้ กทม.ได้ก่อสร้างแนวเขื่อนคอนกรีตริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อป้องกันน้ำปัญหาน้ำเอ่อล้นเข้าพื้นที่ ซึ่งแนวเขื่อนป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในพื้นที่กรุงเทพฯมีระยะทาง รวมกว่า 77 กิโลเมตร ซึ่งแนวเขื่อนมีความสูงถึง 3.50 เมตรจากระดับทะเลปานกลาง เหลือบางช่วงที่ยังไม่สามารถก่อสร้างได้ เป็นพื้นที่ฟันหลอ เนื่องจากเจ้าของพื้นที่ไม่ยินยอม คือบริเวณถนนทรงวาด และบริเวณเกียกกาย ซึ่งเป็นพื้นที่ก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ ที่ต้องทำลายเขื่อนเดิมทิ้ง ซึ่งกทม.ได้นำกระสอบทรายไปตั้งวางเป็นแนวเขื่อนถาวรป้องกันน้ำเสร็จสิ้นแล้ว เพื่อที่ชั้นในเขื่อนป้องกันน้ำท่วม จึงไม่น่าเป็นห่วง

+++นายสมพงษ์ กล่าวว่า ส่วนที่น่าเป็นห่วงคือบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ภายนอกเขื่อนป้องกันน้ำท่วม มีจำนวนกว่า 309 หลังคาเรือน ในพื้นที่เขตบางพลัด บางซื่อ และเขตดุสิต ซึ่งหากระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงมากขึ้น อาจกระทบบ้านเรือนประชาชนได้ อีกทั้งในช่วงกลางเดือนตุลาคมจะมีน้ำทะเลหนุนสูง จึงต้องเฝ้าระวัง

+++การส่งมอบร่างรัฐธรรมนูญที่ปรับแก้ตามคำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ เวลา 8.00 น. จะนำคณะไปส่งมอบร่างรัฐธรรมนูญที่ปรับแก้ให้สอดคล้องกับผลประชามติให้กับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ทำเนียบรัฐบาล หากพล.อ.ประยุทธ์ มีข้อสงสัย คงต้องสอบถามนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีโดยตรง การประชุมวันนี้ เป็นการทบทวนครั้งสุดท้ายก่อนส่งมอบร่างรัฐธรรมนูญ โดยที่นายมีชัยเลือกที่จะส่งมองรัฐธรรมนูญเอง เพราะว่า รัฐธรรมนูญเป็นของใหญ่ ทำมาด้วยกัน รับผิดชอบร่วมกัน อีกทั้งจะได้ไปเป็นสักขีพยานด้วยกัน 

+++ส่วนการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับ คือร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง และร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ให้แล้วเสร็จตามกรอบเวลา นายมีชัย กล่าวว่า จะนำข้อมูลจากฝ่ายต่าง ๆ จะนำมาประกอบการยกร่าง โดยเฉพาะการเดินสายลงพื้นที่ 4 ภาคของกรธ. ซึ่งจะรวบรวมแนวคิดให้เรียบร้อย ทั้ง 2 ฉบับ คือ ภายในวันที่  15 พ.ย. เพื่อยกร่างให้เสร็จและจะส่ง ให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)ทันทีหลังวันที่รัฐธรรมนูญประกาศบังคับใช้ 

+++การประชุมติดตามสถานการณ์ความมั่นคง พล.ต.อ.ศรีวราห์ ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.) เป็นประธานการประชุมความมั่นคง โดยมีกองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) กองปราบปราม (บก.ป.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(บช.ก.) สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) กองบัญชาการตำรวจสันติบาล(บช.ส.) กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค(บช.ภ.)1,2, 7และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม โดยใช้เวลาในประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมง พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า การประชุมวันนี้ เนื่องจากเมื่อช่วงเช้า นายพอล โฟลีย์ เอกอัคราชทูตด้านการต่อต้านการก่อการร้ายสหพันธ์ออสเตรเลีย พร้อมด้วย นายพอล โรเบิลริยาร์ด เอกอัคราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย ซึ่งมีความร่วมมือเรื่องการป้องกันก่อการร้ายร่วมกัน ได้สอบถามข้อมูลความคืบหน้าการเฝ้าระวังการก่อการร้ายในไทย จึงเรียกประชุมและกำชับทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง ยอมรับว่า การข่าวมีกลุ่มผู้ไม่หวังดีเตรียมก่อเหตุคาร์บอมบ์ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล แต่เป็นเรื่องปกติที่มีการข่าวออกมา

+++ส่วนการข่าวมีการแจ้งเตือนว่าวันที่25-30 ตุลาคมนี้ จะมีการก่อเหตุการข่าวลักษณะแบบนี้เกิดขึ้นทั่วโลก รองผบ.ตร. ระบุว่า ได้กำชับไปยังพื้นที่ให้กวดขัน จับกุม ตรวจค้นรถต้องสงสัย การเดินทางของกลุ่มคนร้าย และการปิดล้อมตรวจค้น ซึ่งการเฝ้าระวังก็มีตลอด เป็นไปตามแผนป้องกันการก่อการร้ายสากล และไม่ได้เฝ้าระวังจุดใดเป็นพิเศษ แต่ก็มีการเพิ่มความเข้มตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ สถานทูต จุดล่อแหลม และสถานที่เชิงสัญลักษณ์ แต่ตอนนี้ก็มีการจับตากลุ่มเคลื่อนไหวหลายกลุ่มในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้และชาวต่างชาติ แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่น่าจะเป็นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับคดีระเบิดและวางเพลิงในพื้นที่7 จังหวัดภาคใต้ ที่ก่อเหตุเมื่อวันที่11-12 สิงหาคม

+++การติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุในคดีคดีระเบิดและวางเพลิง 7 จังหวัดภาคใต้ พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพรามณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวนคดีระเบิดและวางเพลิง 7 จังหวัดภาคใต้ เปิดเผยว่า สัปดาห์หน้าเตรียมนำพยานหลักฐานเข้ายื่นต่อศาลทหารเพื่อขอให้พิจารณาออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มอีก เบื้องต้นเป็นผู้ก่อเหตุในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ส่วนจะมีกี่ราย ยังไม่สามารถบอกได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน

+++รองผบ.ตร. ระบุว่า ทราบว่าขณะนี้ทหารได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 1 ราย ส่วนจะเป็นบุคคลตามหมายจับและก่อเหตุในพื้นที่จังหวัดใดนั้นยังไม่ทราบรายละเอียด เนื่องจากต้องให้ทางทหารส่งตัวให้ก่อน โดยทหารยังสามารถควบคุมตัวได้อีกประมาณ 20 วัน ทั้งนี้หากส่งตัวมาก็จะดำเนินการสอบปากคำตามขั้นตอนหาความเชื่อมโยงและติดตามตัวผู้ต้องหาที่เหลือต่อไป

+++พ.ต.อ.คมศักดิ์ สุมังเกษตร รอง ผบก.น.2 พร้อมด้วย พ.ต.อ.มานะ เผาะช่วย ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง และอัยการ ได้เชิญ พ.ต.ท.นิติ สัมฤทธิ์เดชขจร ผู้อำนวยการศูนย์สารสนเทศ กรมสอบสวนดีเอสไอ(ดีเอสไอ) เข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง หลังจากวันที่ 7 ตุลาคม ได้ขอเลื่อนเนื่องจากติดภารกิจ การสอบปากคำวันนี้ เจ้าหน้าที่ได้เน้นประเด็นการติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในอาคารดีเอสไอ มุมกล้องของแต่ละจุด โดยการสอบสวนใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง พ.ต.อ.คมศักดิ์ เปิดเผยหลังการสอบปากคำว่า เน้นเรื่องระบบสารสนเทศของดีเอสไอ ซึ่งการสอบสวนสำนวนชันสูตรพลิกศพมีความคืบหน้ามาก ใกล้จะสรุปสำนวนการชันสูตรพลิกศพส่งอัยการพิจารณาได้แล้ว เหลือค้างเฉพาะหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์บางประเด็นเท่านั้น

+++การลงทุนในตลาดหุ้นไทย  ปิดที่ 1,457.02 จุด ลดลง 47.32 จุด มูลค่าการซื้อขาย 74,142.30 ล้านบาท นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ขอให้มองการลงทุนที่พื้นฐานของเศรษฐกิจไทยเป็นหลัก เนื่องจากเศรษฐกิจไทยขณะนี้ถือว่ายังแข็งแกร่ง นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัยลูกค้าบุคคล บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง เปิดเผยว่า แนวโน้มพรุ่งนี้ ตลาดหุ้นไทย มีโอกาสลงต่ออีก ด้านนายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย กล่าวว่า ระยะนี้แนะนำให้นักลงทุนรอดูสถานการณ์ให้นิ่งก่อน

+++ส่วนตลาดฮั่งเส่งฮ่องกง หยุดทำการ เช่นเดียวกับ ตลาดหุ้นนิเคอิ โตเกียว หยุดทำการ เนื่องในวันดูแลสุขภาพทางการกีฬา

+++นักเศรษฐศาสตร์ชาวอังกฤษ และชาวฟินแลนด์ ร่วมกันพิชิตรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ ประจำปี พ.ศ. 2559 จากผลงานการค้นคว้าทฤษฎีข้อตกลง ที่ช่วยสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีที่ข้อตกลงช่วยให้ประชาชนสามารถจัดการกับผลประโยชน์ที่ขัดกัน คือ ศาสตราจารย์โอลิเวอร์ ฮาร์ท นักเศรษฐศาสตร์ชาวอังกฤษ ซึ่งปัจจุบันสอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐฯ และศาสตราจารย์เบนท์ โฮล์มสร็อม นักเศรษฐศาสตร์ชาวฟินแลนด์ซึ่งปัจจุบันสอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเอ็มไอที สหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว ศาสตราจารย์แองกุส ดีตัน จากมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน ในสหรัฐฯ คว้ารางวัลนี้ไป จากผลงานวิจัยเรื่องการแก้ไขปัญหาความยากจน