การประชุมสุดยอดกรอบความร่วมมือเอเชีย (Asia Cooperation Dialogue - ACD) ครั้งที่ 2 มีผู้นำจาก 34 ประเทศในกลุ่มเอเชียเข้าร่วมการประชุม ที่กระทรวงการต่างประเทศในวันนี้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิด โดยการกล่าวแสดงความเชื่อมั่นว่า การประชุมในครั้งนี้ จะเป็นก้าวสำคัญที่นำไปสู่ความร่วมมือและการพัฒนาอย่างยั่งยืนของภูมิภาค ภายใต้กรอบความร่วมมือที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่สำคัญคือความหลากหลายในพลังความเป็นมิตร ซึ่งจะเป็นการส่งสัญญาณสำคัญต่อประชาคมโลกว่า เอเชียพร้อมเติบโตอย่างครอบคลุม และมีความเป็นเอกภาพ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลก เอเชียถือว่ามีศักยภาพที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจของโลก โดยระดมจุดแข็งของทุกประเทศเพื่อสร้างความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนแห่งเอเชีย เพื่อสร้างความเจริญเติบโตให้กับประชาคมโลก
นอกจากนี้การประชุม ยังเป็นการประกาศเจตนารมย์ของผู้นำ เพื่อร่วมมือกันในทุกด้าน รับความท้าทายใหม่ในอีก 14 ปี ข้างหน้า ซึ่งจะมีการผลักดันความร่วมมือใน 6 เสาหลักของ เอซีดี ที่ประกอบด้วย ความสัมพันธ์ระหว่างความมั่นคงทางอาหาร น้ำ และพลังงาน ความเชื่อมโยง วิทยาศาตร์และเทคโนโลยี และนวัตกรรม การศึกษาและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ วัฒนธรรมและการท่องเที่ยว และ การส่งเสริมแนวทางสู่การพัฒนาที่ทั่วถึง และยั่งยืน สอดคล้องกับเป้าหมาย การพัฒนาที่ยังยืน ของสหประชาชาติ คศ.2030
นายกรัฐมนตรียังประกาศในที่ประชุม ว่า ไทยอยู่ในฐานะประเทศที่มีภูมิศาสตร์ ที่เอื้ออำนวยในการเชื่อมโยง จึงมีความยินดีที่จะเป็นสะพานเชื่อมความร่วมมือในภูมิภาคต่างๆ ประเทศ เพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงด้านโครงสร้างพื้นฐาน
และความร่วมมือจากภาคเอกชนเป็นส่วนสำคัญของการสร้างเศรษฐกิจที่มั่นคง ที่เน้นเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อตอบโจทย์ความท้าทายทั้งด้านความมั่นคงทางอาหารพลังงาน การบริหารจัดการน้ำ เทคโนโลยีสีเขียว และเศรษฐกิจดิจิตอล
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวขอบคุณ ประเทศคูเวต ที่จัดตั้ง สำนักเลขาธิการ เอซีดี อย่างเป็นทางการ ซึ่งจะถือเป็นกลไกที่สำคัญต่อการสร้างการพัฒนาที่ต่อเนื่อง อีกทั้งควรเร่งหารือเกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุนเพื่อการพัฒนา เอซีดี เพื่อให้ความร่วมมือเกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
ท้ายสุดนายกรัฐมนตรี ขอให้การประชุมครั้งนี้เป็นการร่วมกันประสานจุดแข็ง และศักยภาพที่หลากหลายของประเทศสมาชิก มุ่งสู่เอเซียที่เป็นหนึ่งเดียวก้าวไปข้างหน้า อย่างเข้มแข็ง และยั่งยืน ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก โดยไม่ทิ้งใครไว้ด้านหลัง
....
ผสข.ปิยะธิดา เพชรดี
สำหรับกรอบการประชุมในวันนี้ จะมีการหารือความร่วมมือภายในภูมิภาค และจะมีการรับรองเอกสารผลลัพธ์การประชุม 3 ฉบับประกอบด้วยวิสัยทัศน์กรอบความร่วมมือเอเซีย 2030 / ปฎิญญากรุงเทพฯและแถลงการของเอซีดีเกี่ยวกับบทบาทของเอเซียในการกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีจะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันแก่ประเทศผู้นำประเทศ เอซีดี ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ก่อนที่ในช่วงเย็นนายกรัฐมนตรีจะแถลงเพื่อสรุปผลการประชุมเอซีดี และในช่วงค่ำวันนี้ นายแจ๊ค หม่า ประธานกลุ่มบริษัทอาลีบาบา จะเข้าพบนายกรัฐมนตรี ในโอกาสเข้าร่วมการประชุมที่กระทรวงการต่างประเทศ