การหารือแก้ปัญหาการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม หรือ ไอยูยู และการค้ามนุษย์ของประเทศไทยระหว่างพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีแล้วรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและนายสตีฟ เทรนท์ ผู้อำนวยการ มูลนิธิยุติธรรมและสิ่งแวดล้อม (Environmental Justice Foundation หรือ EJF) ในวันนี้ พลเอกประวิตร เปิดเผยว่า เป็นการหารือเกี่ยวกับการทำงานของไทย ที่นานาชาติให้การยอมรับว่าประเทศไทยเป็นตัวอย่างที่ดีในการแก้ไขปัญหา ซึ่งเป็นการทำงานที่เน้นความร่วมมือทั้งกรมประมง กรมเจ้าท่า และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตามนโยบายของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ซึ่งมีการปราบปรามผู้กระทำความผิดอย่างจริงจัง แม้จะพบว่าผู้กระทำผิดจะเป็นระดับนายพล ก็ไม่มีข้อละเว้น จึงอยากให้สื่อมวลชนชื่นชมกันบ้าง
ส่วนกรณีที่ผู้ว่าสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) เผยว่าการให้แก่สมาคมภริยาข้าราชการ สำนักปลัดกระทรวงกลาโหม ใช้เครื่องบินของกองทัพอากาศเป็นวัฒนธรรมองค์กรนั้น รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ไม่อยากให้มองแบบนั้น เพราะเป็นการทำตามระเบียบที่มีอยู่แล้ว และเมื่อทางสำนักปลัดกระทรวงกลาโหมขอมา ก็ให้ยืมไปเท่านั้น
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในปัจจุบัน พลเอกประวิตร ยอมรับว่าในปีนี้มีปริมาณน้ำมากกว่าทุกปี โดยเฉพาะน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิและเขื่อนพระราม 6 ที่ไหลลงสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาปริมาณมากกว่า 2 พันลูกบาศก์เมตร ซึ่งทางนายกรัฐมนตรีสั่งการให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงกลาโหม ร่วมกันขุดแก้มลิงเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม และไม่ให้น้ำหลากเข้าสู่กรุงเทพมหานคร กับมอบให้กรมชลประทานและมหาดไทยลงพื้นที่ดูแลผู้ได้รับความเดือดร้อน ขณะที่ในส่วนของกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการให้ผู้บัญชาการเหล่าทัพ เตรียมแผนการทำงานและจัดกำลังพลช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนเช่นกัน
..
ผสข.ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ