การประชันวิสัยทัศน์ หรือดีเบตผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน และนางฮิลลารี คลินตัน จากเดโมแครต ในวันนี้ที่มหาวิทยาลัยวอชิงตัน เมืองเซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรี ซึ่งคำถามครึ่งหนึ่งจะมาจากผู้ชมที่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกผู้สมัครคนใด
ก่อนที่จะมีการดีเบต ผลการสำรวจความเห็นพบว่า นางคลินตันมีคะแนนนำนายทรัมป์อยู่ที่ร้อยละ 43 ต่อ 38 แต่ที่น่าสนใจคือชาวอเมริกันที่บอกว่าจะไม่เลือกผู้สมัครทั้งสองราย และผู้ที่บอกว่าจะไม่ออกไปใช้สิทธิ์ลงคะแนน มีจำนวนสูงกว่าผลสำรวจเมื่อปี 2555 ถึง 2 เท่า
สำหรับเนื้อหาของการประชันวิสัยทัศน์ในช่วงแรกยังเกี่ยวกับการที่นายทรัมป์ กล่าวถ้อยคำหยาบคายทางเพศต่อสตรีเมื่อปี 2548 ที่ทำให้สมาชิกพรรครีพับลิกันจำนวนมากไม่พอใจ ประกาศไม่ให้การสนับสนุนเขาเป็นประธานาธิบดี ซึ่งนายทรัมป์ยืนยันว่า เขาเป็นสุภาพบุรุษและให้เกียรติผู้หญิง ซึ่งทำให้ผู้ชมการดีเบตหัวเราะ และการโจมตีประเด็นที่นางคลินตันใช้อีเมลล์ส่วนตัวในการทำงาน รวมถึงเหตุโจมตีสถานกงสุลสหรัฐที่เบงกาซี
โดยในประเด็นเกี่ยวกับผู้อพยพลี้ภัยที่นายทรัมป์เห็นว่าเป็นอาชญากรนั้น นางคลินตันเตือนว่า ถ้อยคำของนายทรัมป์ถูกกลุ่มก่อการร้ายนำไปใช้การปลุกระดม หาผู้สนับสนุนก่อเหตุรุนแรง นอกจากนี้การใช้ถ้อยคำเฉพาะเจาะจงไปที่ชาวมุสลิมยังแสดงถึงความเกลียดชังอย่างชัดเจนและขัดต่อหลักเสรีในการนับถือศาสนาของสหรัฐอเมริกาด้วย
นอกจากนี้ นางคลินตันยังกล่าวหารัสเซีย ว่าพยายามแทรกแซงการเลือกตั้งในครั้งนี้ด้วยการสนับสนุนนายทรัมป์ ซึ่งอาจเป็นเพราะมีข้อตกลงบางอย่าง แต่นายทรัมป์ก็กล่าวขึ้นมาว่า เขาไม่รู้จักนายปูติน และไม่ได้ทำงานร่วมกับรัสเซียในการรณรงค์หาเสียงด้วย อย่างไรก็ตาม เขาเห็นว่า น่าจะเป็นเรื่องที่ดีหากสหรัฐอเมริกา สามารถร่วมมือกับรัสเซียเพื่อกำจัดกลุ่มไอเอส
ส่วนเรื่องที่นายทรัมป์ใช้ผลประกอบการธุรกิจที่ขาดทุนในอดีตในเอื้อประโยชน์ในการหลีกเลี่ยงภาษีในอีก 18 ปีถัดมา นายทรัมป์ยอมรับว่าเขาทำจริง แต่ผู้บริจาคหลายคนของนางคลินตันก็ทำเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม มาถึงคำถามสุดท้ายที่ผู้ชมขอให้ผู้สมัคร กล่าวถึงข้อดีของอีกฝ่าย นางคลินตันยกย่องนายทรัมป์ ว่ามีลูกๆ ที่ดีมีความสามารถ ขณะที่นายทรัมป์ก็ยกย่องนางคลินตันว่าเป็นนักสู้ แม้ว่าทั้ง 2 คนจะไม่เห็นด้วยกับนโยบายหาเสียงของอีกฝ่ายก็ตาม
สรุปดีเบตในครั้งนี้ นายทรัมป์ใช้เวลาไป 40 นาที 10 วินาที ส่วนนางคลินตัน 39 นาที 5 วินาที แต่เมื่อซีเอ็นเอ็นและ โออาร์ซีสอบถามความเห็นของผู้ชม พบว่า นางคลินตันได้คะแนนนิยมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 57 จุด ส่วนนายทรัมป์มี 34 จุด
...