เอกชน เผยกลยุทธ์ทำธุรกิจ e-commerce ต้องมีความต่าง พบผู้ประกอบการหน้าใหม่เพิ่มขึ้น

การปรับตัวในการทำธุรกิจในยุคปัจจุบันที่มีเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้อง ภายในงาน  Thailand e-commerce week  มีการจัดโซนพิเศษสำหรับเจรจาธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ รวมทั้งมีการออกบูธจากบริษัทชั้นนำ ที่จะมาให้ความรู้ คำแนะนำในด้านการดำเนินธุรกิจผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ให้กับผู้สนใจด้วย โดยเฉพาะการเติบโตของการทำธุรกิจการขายสินค้าผ่านสื่ออิเล็กทคนิกส์ หรือ e-commerce  ในปัจจุบัน นางสาวปทิตตา ดำรงทรัพย์กิจ ฝ่ายโฆษณา บริษัทตลาดดอท คอม จำกัด เปิดเผยว่า การเติบโตของการขายสินค้าผ่าน e-commerce ในปัจจุบัน ดีขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจยังไม่ขยายตัวตามเป้าหมายที่วางไว้ ทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภค ต่างต้องปรับตัว ในส่วนผู้ประกอบการ พบว่า สนใจหันมาเพิ่มช่องทางเลือกขายสินค้าผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์กันมากขึ้น โดยในช่วง 2 ปี พบมีผู้ประกอบการหันมาทำธุรกิจ e-commerce เพิ่มขึ้นร้อยละ 30 - 40 หรือ 25,000 ราย ด้วยการสร้างเว็บไซต์ขายสินค้าของตัวเอง ส่วนสินค้าฝากขายมีกว่า 270,000 ราย ซึ่งมีปัจจัยมาจาก ค่าใช้จ่ายที่ลงทุนน้อย ไม่ต้องมีหน้าร้าน  การประชาสัมพันธ์ที่กระจายได้ทั่วถึงมากกว่า มีกลุ่มคนใช้สังคมออนไลน์มากขึ้น คนไม่มีเวลา จึงหันมาซื้อสินค้าในสังคมออนไลน์มากขึ้น

ทั้งนี้พบว่า สินค้าที่มีผู้ประกอบการ มาลงขายผ่านเว็บไซต์มากขึ้นคือเครื่องสำอาง ขณะที่จากการสำรวจ พบว่า ยอดผู้บริโภคหันมาซื้อสินค้าในเว็บไซต์กว่า 3,000,000 ราย โดยสินค้าที่ผู้บริโภค นิยมซื้อในเว็บไซต์ มากที่สุดคือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องสำอาง สินค้าแฟชั่น แต่ธุรกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็วใน e-commerce คือ สินค้าอาหารเสริม อุปกรณ์กีฬา และในช่วงนี้จะพบว่า ผู้ชาย จะซื้อของผ่านทางเว็บไซต์มากกว่าผู้หญิง

นอกจากนี้ บริษัทที่หันมาทำ e-commerce ก็เพิ่มขึ้น จึงจำเป็นต้องสร้างจุดเด่นให้แตกต่างออกไป พร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้กับทั้งตัวผู้ประกอบการและผู้บริโภค ด้วยการแสดงความรับผิดชอบ มีความซื่อสัตย์ คืนเงินทันที  เมื่อสินค้าส่งไม่ถึงผู้บริโภค ก็เป็นวิธีหนึ่งที่จะการันตีถึงคุณภาพสร้างความมั่นใจได้ รวมถึงปรับกลยุทธ์ เพิ่มช่องทางเลือกให้ผู้สนใจทำ e-commerce พร้อมเปิดโอกาสในการแสดงความคิดเห็นร่วมกัน ด้วย

ผู้สื่อข่าว:เกตุกนก ครองคุ้ม