คุมผู้ต้องสัยฆ่า3ศพปทุมฯ ชี้จุดประกอบข้อเท็จจริง ฝากขังผัดแรกระหว่างรอผลทางนิติวิทยาศาสตร์

หลังการสอบสวนคนร้ายฆ่าปาดคอในพื้นที่ จ.ปทุมธานี จำนวน 3 ศพ  เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ได้นำตัวนายจิมมี่ อายุ 20 ปี สัญชาติเมียนมาร์ ไปทำการชี้จุดเกิดเหตุ จำนวน 4 จุด โดยจุดแรกอยู่ที่บริเวณสะพานเลียบคลองรังสิต ซึ่งเป็นจุดที่นายจิมมี่ ขี่จักรยานเข้าไปนั่งดื่มเหล้ากับผู้เสียชีวิต 

จุดที่สอง คือบริเวณใต้สะพานข้ามคลองรังสิต มีลักษณะเป็นพื้นที่โล่งและเป็นที่อยู่อาศัยของคนเร่ร่อน ในบริเวณนี้ โดยนายจิมมี่ยอมรับว่าได้นั่งดื่มเหล้ากับผู้เสียชีวิตจริงแต่ไม่ได้เป็นคนลงมือฆ่า พร้อมกับไม่มีส่วนรู้เห็นกับการเสียชีวิตของผู้ตาย จุดต่อมาคือ จุดกลับรถเลียบคลองรังสิต ซึ่งเป็นจุดที่พบนางสาวสุภาพรรณ คงอยู่ดี ผู้เสียชีวิตนอนอยู่ ส่วนจุดสุดท้ายคือ บริเวณริมทางเท้าใต้สะพานเลียบคลองรังสิตเป็นจุดที่ พบผู้เสียชีวิตรายล่าสุด นอนอยู่เช่นกัน

ทั้งนี้ ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนายจิมมี่ ไปทำการชี้จุดเกิดเหตุ นายจิมมี่ไม่ได้มีอาการวิตกกังวล หรือแสดงความเครียด โดยยอมรับแต่เพียงว่า เคยเดินทางมาอาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว แต่ได้เป็นคนลงมือฆ่าผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย

ด้านพ.ต.อ.อริยะ พันธุฟัก ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เปิดเผยว่า นายจิมมี่ยังคงให้การภาคเสธ ว่าไม่ได้เป็นผู้กระทำ โดยวันนี้ได้นำตัวมาชี้จุดประกอบข้อเท็จจริง ในส่วนที่รับสารภาพ ไม่ใช่การชี้จุดเกิดเหตุประกอบคำสารภาพ โดยหลังจากนี้อยู่ในขั้นตอนของหาพยานหลักฐาน ซึ่งมีทั้งพยานวัตถุและพยานทางวิทยาศาสตร์ที่ต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจพิสูจน์ จากการสอบสวนเชื่อว่าคนร้ายน่าจะทำการเพียงคนเดียว หลังจากนี้ จะนำตัวนายจิมมี่ไปขออำนาจศาลฝากขังผัดแรก เป็นเวลา 12 วัน เพื่อทำการสืบสวนหาพยานหลักฐานอื่นๆเพิ่มเติม พร้อมทั้งคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์ และเกรงว่าพยานที่เข้าชี้ตัวรวมถึงพยานผู้เห็นเหตุการณ์จะได้รับอันตราย 

ด้านญาติ ของนายเสถียร ศรชัย ผู้เสียชีวิต และเป็นหนึ่งในพยานที่เข้าชี้ตัวผู้ต้องสงสัย เปิดเผยเพียงสั้นๆว่า ไม่เคยเห็นหน้าหรือรู้จักนายจิมมี่ ผู้ต้องสงสัยมาก่อน แต่จากสภาพศพของผู้ตายที่ถูกปาดคอเป็นรอยลึก ทำให้รู้สึกได้ว่า ผู้ต้องสงสัยเป็นคนที่มีจิตใจโหดเหี้ยม อำมหิต

ส่วนเมื่อเช้านี้ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เชิญพยานที่เห็นเหตุการณ์อีกกลุ่มมาชี้ตัว ปรากฏว่า พยานทั้งสองคนชี้ตัวผู้ต้องสงสัยตรงกันว่าเคยเห็นมาก่อน  

ผู้สื่อข่าว:พนิตา สืบสมุทร