กรมชลประทาน ระบายน้ำเขื่อนพระรามหก เตือน ลพบุรี สระบุรี อยุธยา รับมือ/เร่งหาเหตุปลาราหูตายที่แม่กลอง

*สรุปข่าว 19.35 น.

++++สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยานายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า  ฝนที่ตกหนักในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร อุทัยธานี และนครสวรรค์ ในช่วง 2 – 3 วันทำให้มีน้ำท่าไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาที่จังหวัดนครสวรรค์มากขึ้น เมื่อรวมกับปริมาณน้ำจำนวนมากจากแม่น้ำสะแกกรังที่ไหลลงมาสมทบ จะทำให้ปริมาณน้ำบริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น กรมชลประทาน ได้ใช้ระบบชลประทานทั้งฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา รับน้ำเข้าไปตามศักยภาพที่รับได้ พร้อมกับควบคุมปริมาณน้ำให้ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาไม่เกิน 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ปัจจุบันมีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อน 1,998 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา เพิ่มขึ้นจากเดิมประมาณ 50-70 เซนติเมตร

ส่วนสถานการณ์น้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์นั้น เนื่องจากบริเวณเหนือเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนฯอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างมาก กรมชลประทาน จึงต้องปรับการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จากเดิมที่ระบายออกวันละ 40 ล้านลูกบาศก์เมตร  เป็นอัตราในช่วงวันละ 47.50 – 50 ล้านลูกบาศก์เมตร  เพื่อควบคุมไม่ให้น้ำเต็มเขื่อนก่อนจะสิ้นสุดฤดูฝน ในด้านของเขื่อนพระรามหก มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อน 595 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งไม่กระทบต่อพื้นที่ท้ายเขื่อนแต่อย่างใด กรมชลประทานได้ทำหนังสือแจ้งไปยังจังหวัดลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อประกาศแจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำป่าสัก ให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด 

+++นางผุสดี ตามไท รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ช่วงที่ผ่านมากรุงเทพมหานครประสบปัญหามีน้ำขังรอการระบายในหลายพื้นที่ อาทิ เขตบางซื่อ เขตจตุจักร เขตบางเขน เขตดอนเมือง เนื่องจากมีปริมาณฝนตกมากกว่า 200 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง ทำให้น้ำในคลองเปรมประชากรซึ่งเป็นหนึ่งในคลองหลักที่ใช้ในการระบายน้ำมีระดับสูง ส่งผลให้การระบายน้ำจากถนนเพื่อลงคลองเป็นไปได้อย่างล่าช้า เบื้องต้นจะดำเนินการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำในคลองบางเขนช่วงคลองส่วย เพื่อช่วยลดระดับน้ำในคลองเปรมประชากรและเร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาให้เร็วขึ้น  รวมทั้งได้เสนอให้กรุงเทพมหานครทำการขุดลอกคลองที่ตื้นเขิน ช่วงคลองเปรมประชากรตัดกับคลองบางเขน บริเวณวัดเทวสุนทร เขตจตุจักร เพื่อช่วยการระบายน้ำในคลองบางเขนได้สะดวกขึ้นอีกทางหนึ่ง ซึ่งสำนักการระบายน้ำจะดำเนินการขุดลอกคลองบริเวณดังกล่าว รวมถึงหารือแนวทางการระบายน้ำและป้องกันปัญหาน้ำท่วมบริเวณดังกล่าวในระยะยาวร่วมกับทางชมรมฯ ต่อไปด้วย ทั้งนี้ คาดว่าจะติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำแล้วเสร็จพร้อมใช้งานในวันพรุ่งนี้ (8 ต.ค. 59)

+++พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นประธานสัมมนาเชิงวิชาการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติในหัวข้อ “คอร์รัปชัน...หายนะประเทศไทย” โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า แต่สิ่งที่ยากมากคือระบบอุปถัมภ์ ผมคิดไม่ออกว่าจะแก้อย่างไร หากบอกว่าคนไทยช่วยเหลือคนผิด มันก็จริง แต่เขาก็ต้องตอบแทนบุญคุณซึ่งก็เป็นเรื่องที่ถูก มันจึงเป็นเรื่องยาก แต่ผมคิดว่านี่คือปัญหาใหญ่ที่เราต้องมานั่งช่วยกันคิดว่าเขาต้องแยกให้ออกว่าอะไรควรจะอุปถัมภ์ได้หรือไม่ได้

+++การประชุมนอกรอบสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) โดยมีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช.เป็นประธานเพื่อสัมมนาเรื่อง“คุณสมบัติลักษณะต้องห้าม และเหตุแห่งการสิ้นสุดสมาชิกภาพของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติตามร่างรัฐธรรมนูญที่ผ่านประชามติ” โดยคณะกรรมาธิการสามัญพิจารณาศึกษาเสนอแนะและรวบรวมความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ  ร่วมชี้แจงถึงคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของสมาชิกสนช.หลังรัฐธรรมนูญใหม่บังคับใช้แล้วจะส่งผลกระทบต่อสถานภาพสนช.อย่างไร เนื่องจากตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว ปี 2557 กำหนดให้ สนช.ปฏิบัติหน้าที่ทั้งในฐานะเป็น ส.ส. และ ส.ว. ซึ่ง สนช.จะต้องปฏิบัติหน้าที่ไปจนกว่าจะมีรัฐสภาชุดใหม่ โดยเรื่องที่ชี้แจง อาทิ การแจ้งบัญชีทรัพย์สิน และหนี้สิน การเป็นกรรมการในสภามหาวิทยาลัย การถือครองหุ้น ซึ่งสมาชิกได้ให้ความสนใจเรื่องการถือหุ้นในกิจการที่เป็นสัมปทานของรัฐ เป็นจำนวนมาก    น.พ.เจตน์ ศิรธานนท์ สนช. กล่าวว่า เป็นการทำความเข้าใจในการปฏิบัติตัวของสมาชิก เมื่อรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ เพื่อให้สมาชิกไปดำเนินการให้ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะสนช.ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการประจำ หากยึดตามรัฐธรรมนูญใหม่การทำหน้าที่ในฐานะส.ส.และส.ว. ไม่สามารถเป็นได้ แต่รัฐธรรมนูญยังมีบทเฉพาะกาลยกเว้นให้ ส่วนเรื่องการถือครองหุ้นในกิจการผูกขาดตัดตอนหรือสัมปทานของรัฐ ซึ่งในรัฐธรรมนูญใหม่ ได้กำหนดข้อห้ามและเงื่อนไขถึงการถือครองหุ้นของ คู่สมรสและบุตรด้วย แต่อย่างไรก็ตามมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ว่า หากไม่ได้เป็นการซื้อหรือถือครองเพิ่มเติมในหุ้นเหล่านี้ก็ไม่เป็นปัญหา

+++นายชีพ จุลมนต์ รองประธานศาลฎีกา เจ้าของสำนวน  พร้อมองค์คณะ ไต่สวนพยานจำเลยนัดที่ 4  คดีโครงการรับจำนำข้าว ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง  น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย กรณีละเลยไม่ดำเนินการระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งทำให้รัฐเสียหายกว่า 5 แสนล้านบาท ทนายความจำเลย  ได้นำนายวุฒิพงศ์ วิบูลย์วงศ์ อดีตรองอัยการสูงสุด  ซึ่งเคยเป็นหัวหน้าคณะทำงานพิจารณาสำนวนจำนำข้าว  ขึ้นเบิกความเป็นพยานปากแรก  ตามด้วย นายโอฬาร ไชยประวัติ อดีตประธานผู้แทนการค้าไทย เป็นพยานเบิกความสรุปว่า  เป็น 1 ในคณะกรรมการร่างนโยบายเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย และเป็นผู้ร่วมคิดทำนโยบายรับจำนำข้าว   โดยเปรียบเทียบปรับปรุงนโยบายช่วยเหลือเกษตรกรในรัฐบาลก่อนๆ  ซึ่งวัตถุประสงค์ของโครงการรับจำนำข้าว  เพื่อให้ชาวนามีรายได้สุทธิสูงขึ้น  ตรงข้ามกับนโยบายประกันรายได้ที่ทำให้ชาวนามีเงินลดลง  ส่วนการระบายข้าว  เมื่อรัฐบาลได้รับข้าวแล้วขั้นตอนทั้งหมดกว่าข้าวเม็ดแรกจะถูกระบายออกตลาดจะใช้เวลา 6 เดือน  แต่การระบายข้าวยังจะต้องขึ้นอยู่กับภาวะความต้องการของตลาดด้วย  ซึ่งชาวนาสามารถใช้สิทธิมาไถ่ถอนข้าวได้ตามที่ราคาตลาดและสภาวะเอื้ออำนวย  ยืนยันว่าโครงการรับจำนำข้าวไม่ได้เน้นผลิตโดยไม่สนใจคุณภาพข้าว  ตรงกันข้ามเราให้ความสำคัญกับชาวนา  ให้มีรายได้สุทธิเพิ่มขึ้น  จากนั้น ศาลได้มีคำสั่งให้เลขานุการศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตรวจสอบกรณีวิเคราะห์บทสัมภาษณ์ของนายสุเมธ เหล่าโมราพร  ประธานคณะผู้บริหารบริษัทซีพีอินเตอร์เทรด จำกัด  ในรายการทีวีช่องหนึ่ง ตามที่ฝ่ายจำเลยยื่นคำร้องต่อศาล  และให้นัดสืบพยานจำเลยปากต่อไปในวันที่ 21 ตุลาคมนี้ เวลา 9.30 น.

+++ พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาเคลื่อนไหวพบปะตอบคำถามคนเสื้อแดงที่นครลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา ระบุว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นน้องสาวถูกรังแกนั้นกระบวนการของน.ส.ยิ่งลักษณ์ดำเนินการตามอำนาจตุลาการ ส่วนคสช.และรัฐบาลเป็นฝ่ายบริหาร ไม่ได้ก้าวล่วง แทรกแซงหรือชี้นำฝ่ายยุติธรรม เพราะไม่สามารถทำได้ เนื่องจากแต่ละฝ่ายต่างทำหน้าที่ของตนเอง

+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไทยปิดปรับตัวลดลง  9.52 จุด  ปิดที่ 1,504.34 จุด มูลค่าซื้อขาย 51,388 ล้านบาท  จากความกังวลธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด ) ขึ้นดอกเบี้ย หากตัวเลขจ้างานภาคการเกษตร ปรับตัวขึ้น ดีกว่าที่คาดการณ์ และการกลับมาขายของนักลงทุนต่างชาติ ส่งผลให้ตลาดหุ้นย่อตัวลงทิศทางตลาดสัปดาห์หน้า ต้องติดตามการประชันวิสัยทัศน์ (ดีเบท ) ของผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิด 39.01 จุด ที่ 16,860.09 จุด  ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ปรับตัวลดลง 100.68 จุด ที่ 23,851.82 จุด

+++หลังชาวบ้านริมสองฝั่งแม่น้ำแม่กลองในพื้นที่ อ.อัมพวา และ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม พบซากปลากระเบนน้ำจืด หรือ ปลาราหูจำนวนมาก ลอยขึ้นมาในแม่น้ำแม่กลอง  สัตวแพทย์หญิง (สพญ.) นันทริกา ชันซื่อ ผอ.ศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงเรือสำรวจปลากระเบนในแม่น้ำแม่กลองช่วง อ.สมุทรสงคราม และ อ.อัมพวา ประมาณ 3 กิโลเมตร เพื่อนำตัวอย่างเนื้อเยื่อไปตรวจหาสาเหตุการตายที่แท้จริง พบปลากระเบนตาย 5 ตัว จากการตรวจสอบซากปลากระเบนที่ตายพบยังมีเศษอาหารในกระเพาะอาหารจึงแน่ใจว่าปลากระเบนไม่ได้ป่วยตาย แต่เป็นการตายแบบเฉียบพลันจำนวนมากในเวลาที่ใกล้เคียงกันซึ่งเกิดจากสารพิษอย่างใดอย่างหนึ่งแน่นอน ล่าสุดได้รับรายงานปลากระเบนตายแล้ว 32 ตัว ตอนนี้ปลากระเบนในแม่น้ำแม่กลองยังไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัด ซึ่งจุฬาลงกรณ์ลงพื้นที่ศึกษาปลากระเบนในแม่น้ำแม่กลองนานเกือบ 10 ปี แม้จะฝังชิปให้ปลากระเบนแล้วกว่า 200 ตัว แต่ยังมีข้อมูลจำกัดอยู่ยังไม่มีการดำเนินการอย่างจริงจังสามารถจับปลากระเบนที่เคยฝังชิปกลับคืนมาได้ 8 ตัว มีอัตราการเจริญเติบโตอยู่ที่ปีละ 3-5 ซากปลากระเบนตัวใหญ่คำนวณอายุแล้ว 30-40 ปี ซึ่งหน้าเสียดายมากเพราะกว่าจะโตใช้เวลานานมาก อีกทั้งปลา กระเบนเจ้าพระยาถือเป็นสัตว์ดึกดำบรรพ์ที่หายากที่สุดในโลก หาได้ที่ประเทศไทย จึงมีความจำเป็นที่จะต้องทำการอนุรักษ์ไว้