หุ้นสหรัฐฯพุ่งหลังดอยช์แบงก์ เตรียมจ่ายค่าปรับ สวนทางทองร่วง น้ำมันปิดผสมผสาน

ความเคลื่อนไหวราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 41 เซนต์ ปิดที่ 48.24 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 18 เซนต์ ปิดที่ 49.06 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ก่อนหน้านี้ กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน(โอเปก) สร้างความประหลาดใจแก่ตลาดด้วยการบรรลุข้อตกลงลดกำลังผลิตราว 750,000 บาร์เรลต่อวัน ลงมาอยู่ระดับ 32.5 ล้านบาร์เรลถึง 33 ล้านบาร์เรลต่อวัน ปัจจัยนี้ดันราคาน้ำมันพุ่งแรงในช่วงกลางสัปดาห์ อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันลอนดอนในวันศุกร์ ขยับลงเล็กน้อย หลังรัสเซีย เปิดเผยว่า จะรอดูรายละเอียดของข้อตกลงลดกำลังผลิตของโอเปก ก่อนจะตัดสินใจดำเนินการใดๆต่อไปเกี่ยวกับกำลังผลิตของตัวเอง

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ พุ่งแรง จากข่าวดอยช์แบงก์ใกล้บรรลุข้อตกลงจ่ายค่าปรับแก่หน่วยงานควบคุมกฎสหรัฐฯ เพื่อยุติการสอบสวนในคดีที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน ก่อนวิกฤตการเงินโลกปี 2008 ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 164.70 จุด ปิดที่ 18,308.15 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 17.14 จุด ปิดที่ 2,168.27 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 42.85 จุด ปิดที่ 5,312.00 จุด ก่อนหน้านี้มีความกังวลว่าจำนวนค่าปรับจำนวนมาก อาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของดอยช์แบงก์ และทำให้เกิดคำถามว่าธนาคารสัญชาติเยอรมนีแห่งนี้จะสามารถระดมทุนมาจ่ายค่าปรับได้หรือไม่  อย่างไรก็ตามหุ้นของดอยช์แบงก์ในตลาดสหรัฐฯ พุ่งขึ้นร้อยละ 14.1 จากข่าวสถาบันการเงินแห่งนี้ใกล้บรรลุข้อตกลงจ่ายค่าปรับ 5,400 ล้านดอลลาร์แก่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ น้อยกว่าที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯตั้งเป้าหมายไว้เบื้องต้น 14,000 ล้านดอลลาร์เป็นอย่างมาก และช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของดอยช์แบงก์

ส่วนราคาทองคำในวันศุกร์  ปิดลบแรง หลังความกังวลที่ผ่อนคลายลงไปเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของดอยช์แบงก์ กระตุ้นให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 8.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,317.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แฟ้มภาพ BBC