รองนายกฯสมคิด เร่งรัด รฟท.เสนอแผนสร้างรถไฟรางคู่7เส้นทาง พัฒนาโลจิสติกส์

หลังการตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายแก่การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท) นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในภาพรวม ค่อนข้างพอใจในการดำเนินโครงการทุกโครงการของการทางรถไฟแห่งประเทศไทย ทั้งนี้ ในอนาคตข้างหน้าการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง โครงการต่างๆ จะปรับปรุงการทำข้อกำหนดของผู้ว่าจ้าง หรือ TOR โดยเปิดกว้างให้มีการแข่งขันทั้งในและต่างประเทศเข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งคณะกรรมการที่ตัดสิน TOR ได้มีการคัดเลือกมาอย่างดี เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ความโปร่งใส ในการดำเนินทุกโครงการ

นอกจากนี้ได้มีการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ระยะยาว โดยมอบนโยบาย ในการยกระดับพัฒนาประสิทธิภาพการเดินรถ เพื่อสร้างรายได้ พร้อมกับดูแลเรื่องการบริหารสินทรัพย์ของรถไฟ ซึ่งจะให้มีการจัดตั้งหน่วยงานขึ้นมาดูแลในเรื่องการบริหารจัดการ รวมถึงการพัฒนาที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทยโดยเฉพาะ และเชื่อว่า ภายใน 10 ปีการพัฒนาด้านการรถไฟจะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังได้ร่วมมือกับการเคหะแห่งชาติจัดสรรพื้นที่ข้างทางเพื่อสร้างที่อยู่อาศัยให้กับผู้ที่มีฐานะยากจนด้วย  โดยในนปี 2560 จะเป็นปีแห่งการขับเคลื่อนเส้นทางระหว่างไทย-จีน และเริ่มต้นเส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน ขยายต่อไปทางทิศใต้เพื่อเชื่อมกับประเทศมาเลเซียต่อไป

ส่วนที่ประชุมวันนี้ ได้มีการเร่งรัดโครงการสำคัญในการเดินรถของการรถไฟแห่งประเทศ ให้ผ่านคณะรัฐมนตรี ภายในสิ้นปีนี้ ประกอบด้วย โครงการรถไฟรางคู่ ระยะเร่งด่วน 7 เส้นทาง ลพบุรี-ปากน้ำโพ นครปฐม-หัวหิน หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ชุมทางจิระ-ขอนแก่น มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ แก่งคอย-ฉะเชิงเทรา ระยะทาง 995 กิโลเมตร ที่ขณะนี้ได้มีการเริ่มดำเนินการบ้างแล้ว เมื่อผ่านคณะรัฐมนตรีครบทั้ง 7 เส้นทาง จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างทันที  

โดยโครงการเส้นทางรถไฟรางคู่ สายเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ ถือเป็นเส้นทางสำคัญเนื่องจากเป็นจะช่วยให้ระบบโลจิสติกส์ของประเทศดีขึ้น จึงพยายามผลักดันให้เกิดความคืบหน้าโดยเร็ว  ส่วนโครงการรถไฟความเร็วสูง สายกรุงเทพฯ-ระยองเส้นทางนี้จะมีส่วนสำคัญในเรื่องของระบบเศรษฐกิจการขนส่ง ในภาคตะวันออกอย่างมาก รวมถึงสายกรุงเทพฯ-หัวหิน ด้วย สำหรับโครงการก่อสร้างทางคู่ระยะที่ 2 อีก 7 เส้นทาง ประกอบด้วย เด่นชัย-เชียงใหม่ ขอนแก่น-หนองคายปากน้ำโพ-เด่นชัย ชุมทางจิระ-อุบลราชธานีชุมพร-สุราษฎร์ธานี สุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่-สงขลา และหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์   ระยะทาง 1,493 กิโลเมตร จะมีการดำเนินการภายในปี 2560  

ส่วนความคืบหน้า โครงการระบบรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-มักกะสัน-หัวหมาก และบางซื่อ-หัวลำโพง นายสมคิด กล่าวว่า ในช่วงส่วนต่อขยาย พญาไท-บางซื่อ-ดอนเมือง อยากให้เกิดความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานราชการและเอกชน เพื่อให้การทำงานไปได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น