รองนายกฯประวิตร เผย นายกฯลงนามแต่งตั้งครม.ส่วนหน้า ดูแลปัญหาจังหวัดชายแดนใต้แล้ว

หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี  พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า  ในวันนี้ นายกรัฐมนตรีได้เซ็นอนุมัติรายชื่อคณะรัฐมนตรีส่วนหน้าตามที่ ได้เสนอแล้ว และหลังจากนี้จะมีการประกาศใช้ต่อไป ซึ่งหน้าที่ของครม.ส่วนหน้า เพื่อส่งเสริมให้ศูนย์อำนวย การบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต) และ แม่ทัพภาค 4 ทำงานง่ายขึ้น หลังจากที่ คณะรัฐมนตรี ไม่สามารถเข้าไปควบคุมหรือลงพื้นที่ได้ จึงต้องมีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีส่วนหน้า

ส่วนกรณี ที่ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ออกคำสั่งมาตรา 44 ให้พลตรีสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รักษาราชการในตำแหน่งอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ แทนนายอภินันท์ จันทรรังษี ที่เกษียณราชการ 30 ก.ย.นี้ ปัจจุบัน พลตรีสรรเสริญ สังกัดอยู่ในกระทรวงกลาโหม หากย้ายมาดำรงตำแหน่งรักษาราชการในตำแหน่งอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ พลตรีสรรเสริญจะต้องลาออกจากต้นสังกัด เพราะเป็นการย้ายข้ามหน่วยงาน  แต่การใช้มาตรา 44 นั้นเพื่อทำให้ พลตรีสรรเสริญไม่ต้องลาออกจากต้นสังกัด และการย้ายครั้งนี้เป็นแค่การรักษาการณ์เท่านั้น ขณะเดียวกันยังมีคำสั่ง มาตรา 44 ให้พลตำรวจเอกวุฒิ ลิปตพัลลภ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พ้นจากตำแหน่งให้โอนเป็นข้าราชการพลตำรวจสามัญ ประเภทบริหารระดับสูง ในตำแหน่งผู้ตรวจราชการพิเศษ ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า เนื่องจากว่า พลตํารวจเอกวุฒิดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมา 5 ปีแล้ว แต่หากจะ รับตำแหน่งข้าราชการระดับ10นั้นต้องย้ายมาเป็นข้าราชการพลเรือนก่อน ส่วนจะไปช่วยงานในด้านใดต้องให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้มอบหมาย

กรณีที่บุตรายของพลเอกปรีชาจันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม ใช้บ้านพักในค่ายทหารจดทะเบียนตั้งบริษัทรับเหมาก่อสร้าง รับงานกองทัพภาคที่ 3  พล.อประวิตร กล่าวว่า ส่วนตัวไม่คิดว่าเป็นการตั้งบริษัท แต่น่าจะตั้งเป็นที่ทำงานเท่านั้น เพราะเป็นไปไม่ได้ที่จะมีบริษัทมาตั้งในค่ายทหาร โดยย้ำว่า ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องดังกล่าว เพราะองค์กรอิสระมีหน้าที่ในการตรวจสอบอยู่แล้ว แต่ในส่วนของกองทัพจะเป็นกองทัพภาคที่ 3 เป็นผู้ตรวจสอบ รวมถึงไม่รู้สึกว่า การประมูลราคารับเหมาก่อสร้างที่มีบุตรชายของ พลเอกปรีชา  เป็นคู่สัญญารับเหมาหน่วยงานในกองทัพภาคที่ 3 จำนวน 7 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 97 ล้านบาทว่า ผิดปกติแต่อย่างใด เพราะเป็นการประมูลโครงการ ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งบริษัทที่เข้าประมูลก็มีสิทธิ์ที่จะเสนอราคา อย่างไรก็ตามขอให้อย่าจ้องจับผิดกัน

รองนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการส่งตัวผู้ต้องสงสัย10รายที่ประเทศมาเลเซีย ร้องขอหลังพบว่ามีความเชื่อมโยงกับคดีการค้นพบหลุมฝังศพ ที่ค่ายกักกันค้ามนุษย์ทางภาคเหนือของมาเลเซีย เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2558 ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการส่งตัวให้กับทางประเทศมาเลเซีย แต่ก็ต้องมีการตรวจสอบก่อนเพื่อความแน่ชัด โดยคาดว่าส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติไม่ใช่คนไทย